พรีวิว ยูโรป้า ลีก ลิเวอร์พูล -vs- บียาร์เรอัล (02.05 น.)

พรีวิว ยูโรป้า ลีก ลิเวอร์พูล -vs- บียาร์เรอัล

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2016 เวลา 02.05 น.

สนาม แอนฟิลด์

ผู้ตัดสิน วิคเตอร์ คาสไซ

ถ่ายทอดสด True4U, beIN Sports

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     ดิว็อค โอริกี กองหน้าเบลเยี่ยมยังคงรักษาตัวจากการเจ็บข้อเท้าต่อไป แต่ข่าวดีคือ เอ็มเร่ ชาน กลับมาสู่ทีมและร่วมซ้อมได้แล้ว หลังสลัดอาการเจ็บข้อเท้าสำเร็จ ส่วนพวกที่พักยาวอย่าง โจ โกเมซ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์แดน รอสซิเตอร์ ยังหมดสิทธิ์ลงสนาม รวมทั้ง แดนนี่ อิงส์ ที่กลับมาซ้อมได้เพียงเบาๆ ขณะที่ มามาดู ซาโก้ จะไม่สามารถลงสนามได้ เพราะติดโทษแบนจากฟีฟ่ากรณีใช้สารกระตุ้น แต่เรื่องเดียวที่ต้องลุ้นว่า คล็อปป์ จะใช้งาน แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เป็นตัวจริง หรือรอโอกาสที่ม้านั่งสำรอง

สภาพทีมล่าสุด : บียาร์เรอัล

     ฟากกุนซือทีมเยือนอย่าง มาร์เซลิโน่ ไม่มีอะไรให้กังวลใจ เพราะขุมกำลังส่วนใหญ่ฟิตสมบูรณ์หมด แต่ก็จะไม่มี เอริค เบลลี่ย์ ที่เจ็บหน้าขามาจากเกมนัดแรก รวมทั้ง ลิโอ บาปติสเตา กองหน้าตัวยืมจาก แอต มาดริด ก็หมดสิทธิ์เช่นกัน แต่ในรายของคีย์แมนอย่าง บรูโน่ โซเรียโน่, มาริโอ กัสปาร์ และ เซร์คิโอ อเซนโฆ ที่ถูกพักมาจากเกมลีก จะได้กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมด เช่นเดียวกับ เซดริด บากัมบู กองหน้าตัวอันตรายของพวกเขา ที่ยิงไปแล้ว 9 ประตูในยูโรป้าลีกฤดูกาลนี้ ที่แล้วจะอยู่ครบทั้งหมด

คีย์แมน

ลิเวอร์พูล : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

     ถ้าจะมองหาใครสักคนที่จะเป็นตัวความหวังและเจาะแนวรับที่แน่นหน้าของ บียาร์เรอัล ได้ ก็คงต้องเป็น คูตินโญ่ คนนี้ เกมนัดแรกเขาได้เล่นแค่ 45 นาทีแรกเท่านั้น เนื่องจากมีอาการไม่สบาย มิดฟิลด์วัย 23 ปี ซัดไปแล้ว 12 ประตูบวก 6 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ ซึ่งนับเป็นสถิติที่ดีที่สุดตั้งแต่ค้าแข้งมาเลย ด้วยค่าเฉลี่ยผ่านบอลสำคัญ 2.7 ครั้งทุกๆ 90 นาทีในถ้วย ยูโรป้า และการได้ลงประสานงานแดนหน้าไม่ว่าจะ สเตอร์ริดจ์ หรือ ฟีร์เมียโน่ ย่อมสร้างอันตรายได้มากกว่าเดิม ไม่แน่ว่าวันนี้อาจเป็น คูตินโญ่ ที่ปลดล็อกประตูสำคัญอีกครั้ง

บียาร์เรอัล : เซดริก บากัมบู

    หลักฐานการแอสซิสต์ให้ อาเดรียน ทำประตูชัยในนัดแรกบ่งบอกในตัวแล้วว่าเขาคือตัวอันตรายของ บียาร์เรอัล แล้วยิ่งทีมมีกองกลางที่เล่นครองบอล ผ่านบอลกันได้แน่นอนยิ่งทำให้ บากัมบู น่ากลัวยิ่งกว่าเก่า ด้วยสไตล์กองหน้าความเร็วสูงและยิงได้คม ซีซั่นนี้เขาซัดในถ้วยนี้ 9 ลูกแล้ว และยิ่งเกมรับ ลิเวอร์พูล ค่อนข้างเปราะบางกับผู้เล่นสไตล์นี้ ในยามที่ไม่มี มามาดู ซาโก้ รับมือ ดูแล้วน่าเป็นห่วงไม่น้อยสำหรับเจ้าบ้านหงส์แดงอยู่เหมือนกัน

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์ :

     "เราต้องยอมรับผลการแข่งขันกับ สวอนซี เพราะฟอร์มการเล่นของเราไม่ดีพอ เราต้องยอมรับผลการแข่งขัน นั่นคือสิ่งที่เราได้ทำไป และจากนั้นเราจะทำงาน และทำให้ดีกว่าเดิมในวันพฤหัสฯ นี้"

มาร์เซลิโน่ การ์เซีย :

     "ผมคิดว่าเราอาจจะได้เห็นระบบใหม่ และการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น ปัจจัยเหล่านั้นจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเรา เรารู้ดีว่า ลิเวอร์พูล สามารถสร้างอันตรายกับเรา แต่เราก็รู้ดีเช่นกันว่าเราจะสร้างปัญหากับจุดอ่อนของพวกเขายังไง"

ฟอร์มการเล่น

     เจ้าบ้านหงส์แดงเล่นใน แอนฟิลด์ 10 นัดหลังสุด ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 1 และการันตียิงได้ไม่น้อยกว่า 2 ประตู นับว่าไว้ใจได้กับผลงานในบ้าน ขณะที่ บียาร์เรอัล ก็ไม่น้อยหน้าเป็นบอลประเภทเหนียวเจาะยาก เล่นนัดเยือน 10 นัดหลังสุด ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 3 เสียประตูค่อนข้างน้อย

ประวัติการพบกัน

     ลิเวอร์พูล แพ้ 4 จาก 5 ครั้งหลังสุดที่พบกับทีมจากสเปน แต่ขณะที่ บียาร์เรอัล ก็ยังไม่เคยชนะทีมใดเลยเมื่อต้องมาเล่นที่อังกฤษ 5 ครั้งหลังสุด และยิงได้เพียง 1 ประตูเท่านั้น (เสมอ 2,แพ้ 3)

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, โคโล่ ตูเร่, อัลแบร์โต้ โมเรโน่ - ลูคัส เลว่า, โจ อัลเลน -  เจมส์ มิลเนอร์, อดัม ลัลลาน่า, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่

บียาร์เรอัล (4-4-2) : อัลฟงส์ อาเรโอล่า - มาริโอ กัสปาร์, อีริค เบลลี่, บิคตอร์ รุยซ์, ฆัวเม่ คอสต้า - โจนาธาน ดอส ซานโตส, บรูโน่ โซเรียโน่, ตริกูเอรอส, เดนิส ซัวเรส - โรเบร์โต้ โซลดาโด้, เซดริก บาคัมบู

ทรรศนะ Siamliverpool     

     สถานการณ์ในคืนนี้ที่ แอนฟิลด์ ว่ากันตามตรงแล้วเสียเปรียบอย่างพอสมควร กับการแพ้ไปก่อน 1-0 ในนัดแรก เพราะ บียาร์เรอัล ทีมนี้เกมรับดีเยี่ยมทั้งในบ้านและนอกบ้าน แต่คืนนี้ ลิเวอร์พูล คงต้องโหมเกมบุกทุกรูปแบบโหมกระหน่ำใส่ตั้งแต่นาทีแรก ชนิดไม่มีอะไรจะเสีย มองภาพรวมที่จะเกิดขึ้นแล้ว น่าจะเป็นหงส์แดงของเราที่บุกอยู่ฝั่งเดียว ผนวกกับผลงานในบ้านถือว่าดีและเชื่อถือได้ว่ามีลุ้น รวมทั้งตัวหลักที่พักไปเต็มๆ จะคืนกลับมาเป็น 11 ตัวจริงทั้งหมด เชื่อว่าหากไม่โดน บียาร์เรอัล ยิงได้ก่อน เราน่าจะชนะ 1-0 เป็นอย่างน้อยในเวลา 90 นาที และอาจลากยาวไปถึงการต่อเวลาพิเศษก็เป็นได้

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0