พรีวิว ยูโรป้า ลีก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ -vs- ลิเวอร์พูล (02.05 น.)

พรีวิว ยูโรป้า ลีก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ -vs- ลิเวอร์พูล

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน 2016 เวลา 02.05 น.

สนาม ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค

ผู้ตัดสิน การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาลโญ่

ถ่ายทอดสด True4U, beIN Sports

สภาพทีมล่าสุด : โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

     ทางด้าน ดอร์ทมุนด์ จะได้ 3 ผู้เล่นคนสำคัญที่หายเจ็บกลับมาได้แก่ โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, อิลคาย กุนโดกัน และ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ที่กลับมาซ้อมได้ตั้งแต่วันอังคาร ขณะที่ เนเว่น ซูโบติช ยังต้องพลาดต่อไปจนจบฤดูกาลนี้ โดยในรายของ ฮุมเมิลส์ คาดว่าจะกลับคืนเป็น 11 ตัวจริงอีกด้วย หลังถูกพักเมื่อเกมสุดสปดาห์ ส่วนดาวยิงอย่าง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ผู้ซัดไปแล้ว 36 ประตู ในทุกรายการ จะพร้อมลงล่าตาข่ายในเกมนี้ หลังซัดใน ยูโรป้า ลีก 10 ประตู

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     ลิเวอร์พูล จะได้ โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ กองหน้าคนสำคัญกลับมาสู่ทีมชุดนี้ หลังหายหน้าไป 2 เกมหลังสุด จากปัญหาที่แฮมสตริง ที่เกิดขึ้นหลังเกมเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อ 17 มีนาคม ขณะที่ คริสติย็อง เบนเตเก้ ก็ยังต้องพักต่อไป เพราะเจ็บแฮมสตริง ส่วน ลูคัส เลว่า ก็ยังไม่ฟิตมากพอที่จะกลับมา นอกนั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มีอะไรให้กังวลใจในเรื่องปัญหาผู้เล่น และคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโโยดร็อป สเตอร์ริดจ์ เป็นสำรอง และใช้ ดิว็อค โอริกี และ ฟีร์เมียโน่ ลงตัวจริง

คีย์แมน

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ : ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง

     โอบาเมยอง กระหน่ำซัดไม่เลี้ยงไปแล้ว 23 ลูกใน บุนเดสลีกา ซีซั่นนี้ เขาสามารถสร้างโอกาสสำคัญในเกมเฉลี่ยเกมละ 1 ครั้ง พร้อมทั้งยังทำแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงถึง 5 ลูก เชื่อว่างานหนักของ ลิเวอร์พูล ของแผงหลังอย่าง ลอฟเรน และ ซาโก้ ก็คือการรับมือหัวหอกไฮสปีดอย่างเขานี่เอง

ลิเวอร์พูล : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

     ชั่วโมงนี้คนที่ฝากฝีฝากไข้ของหงส์แดงได้ก็ไม่ใช่ใครนอกจาก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ตามเคย ด้วยผลงานที่เรื่อยๆ มาเรียงๆ แต่ก็พร้อมแผลงฤทธิ์ในเกมสำคัญ เขาซัดไปแล้ว 7 ประตูบวก 5 แอสซิสต์ คืนนี้ที่ ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ก็อาจจะเป็นเขาอีกครั้งที่ทำประตูให้เราได้อเวย์โกล์กลับไปก็เป็นได้

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

โธมัส ทูเคิล :

     "ทันทีที่นกหวีดเริ่มเกมดังขึ้น เจอร์เก้น คล็อปป์ คงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าชัยชนะ เราก็เช่นกัน ไม่มีใครลืมในสิ่งที่เขาเคยประสบความสำเร็จที่นี่ เราอยู่กับสิ่งที่เราเป็นในตอนนี้ เพราะประวัติศาสตร์จาก เจอร์เก้น ลิเวอร์พูล จะยังคงปรับปรุงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาโดดเด่นในคุณภาพรายบุคคล และเล่นด้วยยาก เราต้องพร้อมลุยด้วยฟอร์มการเล่นระดับท็อปสูงสุด"

เจอร์เก้น คล็อปป์ :

     "เราเคยพูดว่า ดอร์ทมุนด์ คือตัวเต็งและผมไม่คิดว่าจะมีใครไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เมื่อพิจารณาจากการที่พวกเขามีฤดูกาลที่ดี ถ้าเราไม่มีผลการแข่งขันที่ดีในวันพรุ่งนี้ มันก็คงเป็นงานง่ายสำหรับ ดอร์ทมุนด์ แต่ทำไมผมจะต้องไปคิดถึงถึงเรื่องนี้ด้วยวะ? เรามีภูเขาที่สูงที่สุดให้ได้ปีนป่าย แต่มันก็ยังมีความเป็นไปได้ ดังนั้นเราจะเตรียมตัวเพื่อเกมพรุ่งนี้"

ฟอร์มการเล่น

     เจ้าบ้านเสือเหลือง ผลงานในถิ่นโหดร้ายเกินจะบรรยาย 23 นัดหลังสุดในทุกรายการที่เล่นใน ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ชนะ 20 เสมอ 2 แพ้ 1 การันตียิงได้อย่างต่ำนัดละ 2 ประตูเป็นอย่างน้อย ขณะที่ ลิเวอร์พูล ทีมเยือนซีซั่นนี้ออกนอกบ้านทุกรายการ 23 นัด ชนะ 9 เสมอ 7 แพ้ 7ยิงได้เฉลี่ยนัดละ 1 ประตู ถือว่า ดอร์ทมุนด์ ฟอร์มเป็นต่ออย่างมากถึงมากที่สุดจริงๆ

ประวัติการพบกัน

     ทั้งสองทีมนี้เคยเผชิญหน้ากันบนถ้วยยุโรปเพียง 3 ครั้ง ด้วยสถิติชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ครั้งแรก ลิเวอร์พูล แพ้ก่อนในปี 1966 บนนัดชิงถ้วย ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ 1-2 ที่ กลาสโกว์ ครั้งที่ 2คือการเสมอ 0-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2001-02 และตามด้วยการกลับมาเอาชนะที่ แอนฟิลด์ 2-0 ในรอบเดียวกัน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ - ลูคัส พิสเซ็ค, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, นูริ ซาฮิน - มาร์โก รอยส์, ชินจิ คางาวะ, เฮนริคห์ เอ็มคิตาร์ยาน - ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลแบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน - อดัม ลัลลานา, โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - ดิว็อค โอริกี

ทรรศนะ Siamliverpool

    มองอย่างเป็นกลาง เกมคืนนี้จัดว่าเป็นงานยากที่สุดระดับ 200 เปอร์เซนต์ของ ลิเวอร์พูล เพราะ ดอร์ทมุนด์ สถิติดุดันมากเมื่อเล่นในบ้าน จะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่ช็อตเดียว นั่นหมายถึงการเสียประตูได้เลย เพราะพวกเขาคือต้นตำรับเกเก้นเพรสซิ่งตัวจริงเสียงจริง ผนวกกับแนวรุกที่ ลิเวอร์พูล มีตอนนี้ยังไม่หลากหลายเท่าเจ้าถิ่น ที่มี 4-5 คนพร้อมทำประตูได้ ขณะที่เรามีไม่มากขนาดนั้น ดังนั้นเกมจึงน่าจะเป็นการตั้งรับการโจมตีจากทีมเสือเหลืองเป็นส่วนใหญ่ แล้วหาโอกาสสวนกลับเล่นงาน แต่ดูแล้วงานช้างจริงๆ ที่เราจะรอดออกมาแบบไม่เสียประตู ถ้าจะหวังให้เป็นไปได้มากที่สุด ก็คือการที่เราจะฝากอเวย์โกล์ออกไปสัก 1 แผล แม้ต้องแพ้ก็ตาม แล้วกลับไปลุ้นที่ แอนฟิลด์ ดูเป็นไปได้มากที่สุดครับ (แต่ถ้าเสมอหรือพลิกชนะก็โบนัสละงานนี้)

ฟันธง : ดอร์ทมุนด์ ชนะ 2-1