หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / เห็นใจบ้าง!! "บิ๊กเบน" เศร้า ปรับตัวแล้วแต่ JK มองข้าม - มินนี่ วอนแฟนหนุนต่อไป

เห็นใจบ้าง!! "บิ๊กเบน" เศร้า ปรับตัวแล้วแต่ JK มองข้าม - มินนี่ วอนแฟนหนุนต่อไป

เห็นใจบ้าง!! บิ๊กเบน เศร้า ปรับตัวแล้วแต่ JK มองข้าม - มินนี่ วอนแฟนหนุนต่อไป

     คริสติย็อง เบนเตเก้ กองหน้าฟอร์มดับชาวเบลเยี่ยม ยอมรับตามตรงว่า เขากำลังรู้สึกเสียใจที่ย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ด้วยเหตุผลที่ว่า เขากำลังผิดหวังกับโอกาสในการลงสนาม ภายใต้การทำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเยอรมันคนปัจจุบัน

     เบนเตเก้ ตั้งข้อสงสัยและไม่เข้าใจว่าทำไม คล็อปป์ จึงมองข้ามเขามาตลอด และเผยอีกว่าตนจะไม่ย้ายมาจาก แอสตัน วิลล่า เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน หากรู้ว่าเขาจะเป็นแค่ตัวสำรองที่ข้างสนามอย่างไร้ค่า และกลายเป็นเพียงตัวเลือกสุดท้าย ถัดจาก แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ และ ดิว็อค โอริกี

     เจ้าของค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ ซัดไปแล้ว 6 ประตูใน พรีเมียร์ ลีก นับตั้งแต่ คล็อปป์ เข้ามาคุมทีม ภายใต้สถานะตัวสำรองมาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา

     "สิ่งที่สร้างความรำคาญให้ผมมากที่สุด ก็คือการที่ผมไม่ได้เซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล หากผมไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกของผู้จัดการทีม"

     "ทุกอย่างของที่นั่นดูจะเป็นฤดูกาลที่ดีของสโมสรขนาดใหญ่ และมันก็เริ่มต้นได้ดี"

     "ยามที่โค้ช (คล็อปป์) เอ่ยเองว่าเขาเคยต้องการจะซื้อตัวคุณ ตั้งแต่สมัยที่เขาอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แล้วจู่ๆ ก็มองข้ามคุณไป มันเลยยากที่จะเข้าใจได้"

     "เพื่อนร่วมทีมบางคนบอกผมว่า ผมช่างโชคดีจริงๆ ที่ คล็อปป์ เข้ามาคุมทีม เพราะผมจะได้โอกาสลงเล่นแน่"

     "แต่สิ่งทั้งหมดที่ผมเคยประสบมาทั้งชีวิตการค้าแข้ง ผมรู้ดีว่ามันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมไม่ได้ทำผิดอะไร"

     "ผมเป็นคนแรกที่ยอมรับเองเลย ว่าผมยังไม่ได้แสดงคุณค่าของตัวเองมากพอ ให้ทีมอย่าง ลิเวอร์พูล ในอีกแง่หนึ่ง ภายใต้ยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผมรู้ดีว่าผมจะได้โอกาสในการแสดงคุณภาพของตัวเอง เพื่อแสดงให้เห็นว่าผมมีคุณค่าสมกับเงินที่จ่ายไป และนั่นคือสิ่งที่ผมสมควรจะได้สวมเสื้อของ ลิเวอร์พูล แต่ตอนนี้..."

     "ผมรู้ว่าโค้ชคนใหม่ อาจจะมีมุมมองกับตัวผมที่แตกต่างไป และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น"

     "คล็อปป์ เคยบอกผมว่าเขาต้องการให้มีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น และนั่นคือหนึ่งในคุณภาพของตัวผม"

     "ผมได้พิจารณาความเห็นของเขา ผมบอกกับตัวเองว่าผมต้องปรับตัวและเปลี่ยนสไตล์การเล่นของตัวเอง และผมนึกได้เสมอว่า ลิเวอร์พูล ซื้อผมมาก็เพราะคุณภาพในตัวของผมเอง"

     "สถานการณ์ที่ควรจะเป็น ก็คือการรักษาเอกลักษณ์ของตัวคุณไว้ ในขณะที่พยายามปรับตัวกับสไตล์ของโค้ช และถ้ามันไม่เวิร์ค มันก็ย่อมจะไม่เวิร์คเช่นนั้น"

     "2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ร่างกายและจิตใจของผมโอเคดี นับตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่ในอังกฤษเมื่อปี 2012 ผมไม่เคยต้องมาอยู่ม้านั่งสำรองนานๆ มาก่อน มันเจ็บปวด โดยเฉพาะการที่ผมไม่เคยฟิตสมบูรณ์เท่าในตอนนี้มาก่อน"

     "นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ผมถึงพยายามคว้าโอกาสของตัวเอง ยามที่ผมได้ลงเล่น 5 หรือ 10 นาที ผมไม่ต้องการให้ใครมาตำหนิได้ว่าผมขาดความเป็นมืออาชีพ"

     "แม้แต่คุณพ่อของผม คนที่เริ่มกังวลกับสถานะของตัวผมเอง เคยบอกผมว่า ผมไม่สามารถทำอะไรได้มากนักในสถานการณ์แบบนี้ ผมเคยคุยกับ เอแด็ง อาซาร์ และ มารูยาน เฟลไลนี่ และพวกเขาก็ตอบออกมาแบบเดียวกัน ถ้าโค้ชไม่พิจารณาคุณ คุณก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก"

      เขายังยอมรับอีกด้วย ว่าสัมผัสได้ถึงความเหินห่างจากแฟนบอลที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ จากความไม่ถูกใจในการเล่นของตัวเอง

     "ถ้าผมผ่านบอลผิดพลาด ผมย่อมรู้สึกได้มากกว่าใครๆ ว่าแฟนบอลผิดหวังไม่พอใจ มันยากที่จะเล่นฟุตบอลอย่างผ่อนคลาย"

      "ทั้งๆ ที่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากของผมนี้ ผมก็ยังเป็นดาวซัลโวสูงสุดอันดับ 2 ของทีมถัดจาก โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ ที่ยิงไป 8 ลูก นั่นก็ไม่เลวเลย แม้ว่าผมหวังที่จะทำได้มากกว่านี้ก็ตาม คำวิจารณ์ต่างๆ ยังออกห่างจากความเป็นจริงที่ว่า ผมเป็นแค่คนที่เพิ่งย้ายมาใหม่"

      "บางคนในสโมสรนี้ประเมินผมในวิธีการที่ต่างไป"

     ถึงแม้ว่า เบนเตเก้ จะไม่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่เขาก็ยืนกรานว่าเขายังต้องการจะสู้กับการแย่งตำแหน่งในทีม เพื่ออนาคตของตัวเองที่ ลิเวอร์พูล ต่อไป หลังปฏิเสธโอกาสย้ายไปเล่นในลีกจีน รวมทั้ง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่แสดงความสนใจมาตลอด ตั้งแต่เดือนมกราคม

     "ในช่วงมกราคมที่ผ่านมา ผมไม่ต้องการย้ายทีม มันคือความปราถนาของผมในการประสบความสำเร็จที่ ลิเวอร์พูล ผมต้องการอยู่ต่อไป หลังจบฤดูกาลเราจะมาพิจารณาผลงานกันอีกที"

     ทางด้าน ซิมง มิโญเลต์ นายทวารเพื่อนร่วมชาติก็ออกมาเรียกร้องให้แฟนๆ ควรสนับสนุนและให้กำลังใจ เบนเตเก้ กันต่อไป "ทุกคนรู้ดีในคุณภาพของเขา ยามที่คุณเป็นนักฟุตบอล คุณย่อมต้องการลงเล่นในทุกรายการ และมันไม่ง่ายเลยเมื่อคุณต้องอยู่ที่ม้านั่งสำรอง"

     "เขายังคงทำงานหนักในการซ้อม เพื่อตำแหน่งของเขา เขาทำงานอย่างดีที่สุดในทุกๆ วัน"

 

Liverpool Training

ADS