หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / คะแนนหลังเกม พรีเมียร์ลีก คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล

คะแนนหลังเกม พรีเมียร์ลีก คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล

คะแนนหลังเกม พรีเมียร์ลีก คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล

ตัวจริง

ซิมง มิโญเล่ต์ - 7/10

          โดยรวมเกมนี้ไม่มีอะไรให้น่าติเท่าไรนัก เพราะเขาสามารถเซฟช่วยทีมได้เลยต่อหลายครั้ง แถมยังมีจังหวะขว้างบอลเร็วให้เพื่อนได้โอกาสเล่นโต้กลับหลายต่อหลายครั้ง เห็นอย่างนี้แล้วอยากให้เล่นดีแบบนี้ทุกนัดจริงๆ

จอน เฟลนาแกน - 6/10

          สำหรับเจ้าหนูจอนเกมนี้อาจจะไม่ใช่วันที่ดีที่สุดของเขา เพราะการร้างสนามไปนานคงต้องให้เวลาปรับสปีดพอสมควร ทั้งเกมรับและจังหวะเติมเกม ดูจะติดๆ ขัดๆ จนบางทีก็แทบจะหายไปจากเกมเลยด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกใจที่เขาถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครั้งหลัง แต่ก็ไม่มีจังหวะผิดพลาดร้ายแรงเด่นชัดให้แฟนบอลต้องขวัญผวาเท่าไรนัก

เดยัน ลอฟเรน - 7.5/10

LONDON, ENGLAND - Sunday, March 6, 2016: Liverpool's Dejan Lovren celebrates as a late injury time penalty is awarded against Crystal Palace during the Premier League match at Selhurst Park. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          บอกได้คำเดียวว่า "เจ๋ง" สำหรับปราการหลังโครแอตที่เกมนี้รับสองจ็อบ ทั้งการเป็นเซ็นเตอร์แบ็คงานถนัด ซึ่งทำได้ดีไม่ว่าจะเป็นการตัดบอลและลูกกลางอากาศ นอกจากนี้ยังโดนโยกไปเล่นเป็นแบ็คขวาแก้ขัดในช่วงท้ายเกมอีกด้วย ตอนแรกก็ยังหวั่นใจว่าจะทำได้ดีแค่ไหน แต่ผลที่ออกมานั้นกลับดีเกินขาด ชนิดที่รุ่นน้องอย่าง เฟลนาแกน ถึงกับหลอน

มามาดู ซาโก้ - 7/10

          นับเป็นหนึ่งในเกมที่จับคู่ได้ลงตัวและทำงานกันได้สอดคล้องกันสุดๆ เพราะการรับมือกับตัวรุกระดับพระกาฬของ คริสตัล พาเลซ ที่มีทั้ง วิลฟรีด ซาฮา, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ ยานนิค โบลาซี่ ไม่สามารถทำอะไรแนวรับคู่นี้ได้เลย และทำให้งานของ มิโญเล่ต์ น้อยลงไปเยอะ

อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - 6.5/10

          จากจังหวะซัดไกลด้วยซ้ายข้างถนัด บอลพุ่งชนเสาเหลี่ยมนอกกระดอนออกมา ทำเอาแฟนบอลลุกฮือไปตามๆ กัน และน่าจะเป็นที่มาของคะแนนในวันนี้ เพราะโดยรวมค่อนข้างเงียบจากการเติมเกมที่ค่อนข้างน้อย แถมยังเอาชนะปีกของคู่แข่งไม่ค่อยอยู่อีก

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - 5/10

          เกมนี้กัปตัน "เฮนโด้" ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมเท่าไรนักและยังมีจังหวะผิดพลาดพอสมควร บางทีเขาน่าจะได้พักเป็นสำรองบ้างสักเกม เพื่อความมุ่งมั่นที่มากขึ้น เชื่อว่าการได้แค่ 5 คะแนนไม่น้อยเกินไปสำหรับเขา

เอ็มเร่ ชาน - 7.5/10

LONDON, ENGLAND - Sunday, March 6, 2016: Liverpool's Christian Benteke celebrates scoring the winning second goal against Crystal Palace from a penalty kick with team-mate Emre Can during the Premier League match at Selhurst Park. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          จอมทัพเมืองเบียร์รายนี้ต้องรับจ็อบควบสองไม่ต่างอะไรจาก ลอฟเรน เพราะต้องเล่นทั้งมิดฟิลด์ตัวกลางกับเซ็นเตอร์แบ็ค ซึ่งเขาก็ทำได้ดีจนน่าจะได้รางวัล "แมน อ็อฟ เดอะ แมตช์" ไปครองด้วยซ้ำ เพราะไม่ว่าจะเป็นต่อเกม, ตัดเกมและอ่านเกม ทำได้เนียนตาเหนือชั้น

เจมส์ มิลเนอร์ - 4/10

          รองกัปตันฟอร์มตกอย่างแรง เพราะจังหวะโดนใบแดงนั้นล้วนๆ ส่งผลให้เพื่อนร่วมทีมต้องเล่น 10 คนถึงครึ่งชั่วโมงทั้งที่เป็นฝ่ายตามหลังอยู่ นอกจากนี้ยังดูจะช้าไปสักหน่อยในหลายจังหวะจนทำให้ทีมเสียโอกาสในเกมรุก

โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ - 7/10

LONDON, ENGLAND - Sunday, March 6, 2016: Liverpool's Roberto Firmino celebrates scoring the first goal against Crystal Palace during the Premier League match at Selhurst Park. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          หนึ่งในฮีโร่ของทีมในคืนนี้ โดยประตูแรกของเขาทำให้ทีมกลับมาสู่เกมทั้งที่ตามหลังไปก่อน ส่วนผลงานในสนามต้องบอกว่ามาตรฐานบราซิเลี่ยนจริงๆ ทั้งความคล่องตัวและการไปกับบอลก็ทำได้เนียนตา แถมจังหวะยิงประตูตีเสมอก็นิ่งสุดๆ เอาใจพี่ไปเลย

อดัม ลัลลานา - 6.5/10

          ฟอร์มการเล่นของ "ไอ้หนุ่มหน้าหล่อ" รายนี้ถือว่าดีตามมาตรฐาน และความด้วยขยันของเขา ทำให้ ลัลลานา เป็นตัวเคลื่อนเกมรุกของทีม ก่อนที่ คูตินโญ่ จะลงมาช่วยสานต่อ

ดิว็อค โอริกี้ - 6.5/10

          หนึ่งในแข้งน่าภูมิใจของ "เดอะ ค็อป" แม้ว่าจะไม่มีสกอร์ในเกมนี้ แต่เขาก็สามารถเก็บบอลและเบียดสู้กับกองหลังคู่แข่งได้ดี แถมยังมีความเร็วต้นจัดจ้านอีกด้วย ไม่แปลกใจที่จะเขี่ย เบ็นเตเก้ เป็นแค่สำรอง

ตัวสำรอง

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - 6.5/10 (ลงสนามแทนที่ของ จอน เฟลนาแกน ในนาทีที่ 61)

          หลังจากที่เขาลงสนามมาในช่วงครึ่งทางของครึ่งหลัง ก็ช่วยทำให้ทีมสร้างสมดุลย์ในเกมรุกมากขึ้น แม้ว่าทีมจะเหลือผู้เล่นแค่ 10 ตัว แต่ก็ไม่ทำให้เกมบุกของ ลิเวอร์พูล ลดศักยภาพลงไป แถมยังส่งผลให้รูปเกมดีกว่าตอนมี 11 คนด้วยซ้ำ

คริสติย็อง เบ็นเตเก้ - 7.5/10 (ลงสนามแทนที่ของ ดิว็อค โอริกี้ ในนาทีที่ 80)

LONDON, ENGLAND - Sunday, March 6, 2016: Liverpool's Christian Benteke celebrates scoring the winning second goal against Crystal Palace from a penalty kick with team-mate Emre Can during the Premier League match at Selhurst Park. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          ลงมาปุ๊บ เกือบยิงได้ปั๊บ ในจังหวะสัมผัสแรกของเกมหลังลงสนามเป็นสำรองและตลอดเวลา 10 นาทีเศษ เขาสร้างสรรค์จังหวะทำประตูได้ 2-3 ครั้ง และที่เด็ดที่สุดคือการเรียกจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แถมยังสวมบทฮีโร่ซัดโทษเองอีกด้วย

โคโล่ ตูเร่ - ไม่มีคะแนน (ลงสนามแทนที่ของ โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ ในนาทีที่ 88)

          เชื่อว่าการลงสนามของเขาไม่ได้มีส่วนสำคัญอะไรกับเกมรุกเลย แถมยังแอบคิดว่า คล็อปป์ คงหวังแค่แต้มเดียว แต่ใครจะรู้ว่าการที่เขาลงสนามมา ทำให้ ชาน ถูกขยับกลับไปเป็นมิดฟิลด์ตามเดิม และช่วยให้ทีมมีเกมรุกที่ดีขึ้น นับเป็นแทคติกอันยอดเยี่ยมของกุนซือเฮฟวี่เมทัลเลยก็ว่าได้

ADS