หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว พรีเมียร์ลีก คริสตัล พาเลซ -vs- ลิเวอร์พูล (20.30 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก คริสตัล พาเลซ -vs- ลิเวอร์พูล (20.30 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก คริสตัล พาเลซ -vs- ลิเวอร์พูล (20.30 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก คริสตัล พาเลซ -vs- ลิเวอร์พูล

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2016 เวลา 20.30 น.

สนาม เซลเฮิร์สต์ พาร์ค

ผู้ตัดสิน อังเดร มาริเนอร์

ถ่ายทอดสด CTH สเตเดี้ยม 2

     พลพรรคหงส์แดง ลิเวอร์พูล เจองานหนักสุดๆ สำหรับการออกไปเยือนรัง เซลเฮิร์สต์ พาร์ค ของ คริสตัล พาเลซ ของแสลงในรอบหลายๆ ปี ปัญหาใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ในยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ ในขณะนี้ คือความเอาแน่เอานอนไม่ได้ในฟอร์มการเล่น ที่เคยย่ำแย่สุดๆ และดีได้สุดๆ เช่นกันในวันที่เข้าฝัก ยิ่งโคจรมาเจอทีม ที่มักมีพลังแฝงเวลาดวลหงส์อย่าง พาเลซ จึงไม่น่าเรื่องน่าประหลาดใจ หากจะยกให้เกมประเดิมเดือนมีนาคม โหดหินอย่าบอกใคร ผลจะลงเอยยังไง 2 ทุ่มครึ่งเรามีนัดกัน

สภาพทีมล่าสุด : คริสตัล พาเลซ

Connor Wickham scores Crystal Palace's equaliser against Sunderland in the 61st minute

     ดาวยิงตัวฮอตอย่าง คอนนอร์ วิคแฮม ได้รับบาดเจ็บที่ต้นขายังต้องลุ้นฟิต ขณะที่ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ โกล์ตัวเก่งอาจจะถูกแทนที่โดย จูเลี่ยน สเปโรนี่ หากไม่ผ่านความฟิต ส่วน ปาเป้ ซัวอาเร่ จะได้ลงเป็นตัวจริงหลังพ้นโทษแบน ด้าน มาร์ติน เคลลี่ คาดว่าจะถูกดร็อปเป็นสำรอง นอกนั้น เจมส์ แม็คอาเธอร์ และ เจสัน ปันเชียน หมดสิทธ์ลงสนาม

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

LONDON, ENGLAND - Tuesday, February 9, 2016: Liverpool's Lucas Leiva gives a thumbs up during the FA Cup 4th Round Replay match against West Ham United at Upton Park. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ หรือ จอน ฟลานาแกน ลงเล่นตัวจริงต่อเนื่อง แล้วโยก นาธาเนี่ยล ไคลน์ ไปยืนแบ็กซ้ายเหมือนนัดที่แล้วหรือไม่ ส่วน ลูคัส เลว่า จะพลาดลงสนามเพราะเจ็บกล้ามเนื้อ ขณะที่ แดเนี่ยล สเตอร์รืดจ์, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ พร้อมให้เลือกใช้งาน

คีย์แมน

คริสตัล พาเลซ : สก็อตต์ แดนน์

     เห็นเป็นกองหลังแบบนี้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า แดนน์ คือดาวซัลโวสูงสุดร่วมของ พาเลซ เขาเล่นเกมรับได้น่าประทับใจ จนพาทีมมาอยู่กลางตาราง ตำแหน่งถนัดของเขาคือเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แต่ก็สามารถขยับมาเล่นหน้าเป้าได้ หากทีมกำลังตามหลังช่วงท้ายเกม นอกจากนั้น ยังเป็นผู้เล่นที่จับบอลแรกได้ดีทั้งที่ตัวใหญ่ อีกทั้งยังผ่านบอลได้สง่างาม แน่นอนว่าคืนนี้ แดนน์ คงไม่ยอมปล่อยให้ผู้เล่นหงส์แดงผ่านเขาไปง่ายๆ

ลิเวอร์พูล : โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่

     ฟีร์เมียโน่ ดาวยิงพ่อลูกอ่อนกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างแรง ล่าสุดก็เพิ่งยิง แมน ซิตี้ มา 1 เม็ดพร้อม 1 แอสซิสต์ หลังได้กลับมาเล่นตำแหน่งถนัดโดยยืนหลัง ดิว็อค โอริกี และการประสานงานของเขากับ อดัม ลัลลาน่า ก็นำมาซึ่งประตูในเกมที่ผ่านมา ทำให้เขาทำผลงานกับ ลิเวอร์พูล ด้วยสถิติซัด 7 ประตูและ 8 แอสซิสต์ นับเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลแรกในอังกฤษที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า คริสติย็อง เบนเตเก้ ที่ย้ายมาพร้อมกันด้วยซ้ำ

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

อลัน พาร์ดิว :

     "ลิเวอร์พูล ยอดเยี่ยมมากจากเกมกลางสัปดาห์ การเล่นเพรสซิ่งแบบเข้มข้นคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นในการชม มันอาจจะไม่เวิร์คเสมอไป ถ้าเราสามารถหาทางเอาชนะการเพรสซิ่งได้ เราก็สามารถสร้างปัญหาให้พวกเขาเหมือนที่เคยทำในอดีต เราเล่นได้ดีขึ้นในเกมกับ ซันเดอร์แลนด์ ผู้เล่นต่างกลับมาจากการบาดเจ็บเพื่อช่วยเราเดินหน้า มันคือทีมที่แตกต่างไปจาก 4 หรือ 5 สัปดาห์ก่อน"

เจอร์เก้น คล็อปป์ : 

     "ช่องว่าง 6 คะแนนไม่ใช่เรื่องใหญ่ ผมอยากจะบอกว่าเราจะคว้าทุกแต้มที่เหลือ แต่เราต้องแสดงมันออกมา ความคงเส้นคงวาดูจะไม่ใช่งานอดิเรกของเราจนถึงตอนนี้ เราจำเป็นต้องปรับปรุงในส่วนนี้ของเกม และกลับมาอยู่ในการขับเคี่ยวอีกครั้ง ตำแหน่งการออกสตาร์ทของเราไม่ได้เยี่ยมยอดเลิศหรู แต่มันยังดีพอที่จะประสบความสำเร็จบางอย่าง ตอนนี้เรามีกลุ่มที่มาซ้อมขนาดใหญ่ และนั่นคือเรื่องดี เราต้องใช้คุณภาพนี้ในการเปลี่ยนแปลง"

ฟอร์มการเล่น

     เจ้าบ้าน พาเลซ กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำถึงขีดสุด เพราะ 5 นัดหลังสุดในบ้าน แพ้ถึง 4 เกม แต่ก็เสียประตูค่อนข้างน้อย ขณะที่ ลิเวอร์พูล ฟอร์มยังลุ่มๆ ดอนๆ 5 เกมนอกบ้าน ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 แม้จะทำได้ดีจากการถล่ม แอสตัน วิลล่า และ นอริช ซิตี ก็ตาม

ประวัติการพบกัน   

     พาเลซ นั้นเคยดวลกับ ลิเวอร์พูล ในทุกรายการมา 11 ครั้ง และมีสถิติ ชนะ 6, เสมอ 2, แพ้ 3 โดยมีประเด็นน่าสนใจในเกม 5 ครั้งหลังสุดว่าหากมีทีมได้ขึ้นนำก่อน ทีมนั้นจะไม่ชนะถึง 4 เกม โดยเป็น พาเลซ ที่ชนะถึง 3 ครั้ง โดยหนสุดท้ายที่หงส์แดงบุกชนะที่นี่ต้องย้อนไปเมื่อธันวาคม ปี 1997 ด้วยสกอร์ 3-0 จากผลงานของ สตีฟ แม็คมานามาน, ไมเคิล โอเว่น และ ออยวินด์ ลีออนฮาร์ดเซ่น

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

crystallineup

คริสตัล พาเลซ (4-2-1-3) : เวย์น เฮนเนสซี่ - มาร์ติน เคลลี่, สก๊อต แดน, ดาเมี่ยน เดลานี่ย์, ปาเป้ ซัวอาเร่ - จอร์ดอน มัตช์, ไมค์ เยดินัค - โยอันน์ กาบาย - ยานนิค โบลาซี่, วิลพรีด ซาฮา - คอนเนอร์ วิคแฮม

livlineup

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - จอน ฟลานาแกน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, นาธาเนี่ยล ไคลน์ - เอ็มเร่ ชาน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่, อดัม ลัลลาน่า

ทรรศนะ Siamliverpool

     เกมนี้จะว่าไปแล้ว อย่างที่ทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล หาชัยชนะในการมาเยือนที่นี่ไม่เจอมานานแล้ว ตั้งแต่ยุคที่ยังมี หลุยส์ ซัวเรซ ล่าตาข่ายด้วยซ้ำ แต่กระนั้นในช่วงเวลานี้เป็นโอกาสที่น่าจะดีที่สุดในรอบหลายปี เพราะเจ้าถื่นกำลังฟอร์มตกอย่างหนัก แพ้เป็นว่าเล่น 7 จาก 12 นัดเข้าไปแล้วตั้งแต่ขึ้นปี 2016 ผิดกับคลับหงส์แดงที่แม้จะเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ แต่กำลังใจกลับมาเยอะจากเกมกระทืบ แมน ซิตี้ แถมได้ตัวหลักกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตา และเกมเพรสซิ่งก็กำลังร้อนแรงเข้าที่ ดังนั้นคืนนี้ ลิเวอร์พูล มีลุ้นที่จะคว้า 3 แต้มกลับบ้านได้แบบฉิวเฉียด

ฟันธง : ลิเวอร์พูล เบียด 1-0

ADS