หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว เอฟเอ คัพ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล (02.55 น.)

พรีวิว เอฟเอ คัพ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล (02.55 น.)

พรีวิว เอฟเอ คัพ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล (02.55 น.)

พรีวิว เอฟเอ คัพ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2016 เวลา 02.55 น.

สนาม เซนต์ เจมส์ ปาร์ค

ถ่ายทอดสดช่อง 7

     ลิเวอร์พูล ต้องลงทำศึกเอฟเอ คัพ ซีซั่น 2016-16 โดยการลงเล่นรอบ 3 ในคืนนี้ ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกับ เอ็กเซอเตอร์ ที่สนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค เจ้าของแชมป์เอฟเอ คัพ 7 สมัย ต้องบุกไปเยือนเดวอน ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ และต้องหลีกเลียงที่จะสร้างความผิดหวังครั้งใหญ่ โดยการไม่พลาดท่าเสียทีให้กับทีมจากลีกทู แต่ทว่าสภาพทีมปัจจุบัน อุดมไปด้วยรายชื่อนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บ ต้องมาดูกันว่ากุนซือคนเก่งอย่างเจอร์เกน คลอปป์ จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร

สภาพทีมล่าสุด : เอ็กเซเตอร์

     เจ้าบ้านเอ็กเซเตอร์ อาจต้องเจอกับงานยากในเกมนี้ เมื่อกองกลางตัวเก่งอย่าง เดวิด วีเลอร์ ไม่น่าสลัดเดี้ยงที่ข้อเท้า หายทันลงเล่นกับลิเวอร์พูลในเกมนี้ แบ็คขวาของทีมอย่างคริสเตียน ริเบโร่ และมิดฟิลด์ เดวิด โนเบิล ที่เจ็บมานาน อาจะได้ลงเล่นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน หลังสลัดเดี้ยงหายขาด และจะได้มีชื่อเป็นตัวสำรอง นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องกังวล

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     ทีมเยือนอย่างลิเวอร์พูล ยังคงประสบกับวิกฤติผู้เล่นบาดเจ็บ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นหลายตำแหน่ง ในการเจอกับคู่ต่อสู้จากลีกทู อย่างเอ็กเซเตอร์ กองหลังซีเนียร์ของทีมไม่ฟิตพอลงสนามเลยแม้แต่คนเดียว แถมเกมถัดไปต้องเจอกับอาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงไม่น่าเสี่ยงส่งโคโล่ ตูเร่ ลงสนาม หลังได้รับบาดเจ็บจากเกมกลางสัปดาห์กับสโต๊ค จอน ฟลานาแกน ที่เจ็บไปนาน อาจมีส่วนร่วมในเกมนี้ หลังได้ลงเคาะสนิม 45 นาที ให้กับทีมยู-21 แต่ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ เดยัน ลอฟเรน จะพลาดลงสนามแน่นอนเพราะมีอาการบาดเจ็บแฮมสตริง ขณะที่มามาดู ซาโก้ ก็ยังไม่หายเจ็บเช่นกัน

คีย์แมน
เอ็กเซเตอร์ : ทอม นิโคลส์

     หัวหอกดาวรุ่งชาวอังกฤษวัย 22 ปี ของเจ้าบ้าน ที่ฟอร์มกำลังฮอตแบบฉุดไม่อยู่ กับผลงาน 8 ประตู จากการลงสนาม 20 นัด รั้งตำแหน่งดาวซัลโวของทีมไปแบบไร้คู่แข่ง แน่นอนว่าด้วยผลงานที่น่าประทับใจ จะทำให้เขาเป็นตัวอันตรายสำหรับทีม "หงส์แดง" ในเกมนี้อย่างแน่นอน

ลิเวอร์พูล : โจ อัลเลน

     จากนี่เป็นนักเตะนอกสายตา ไม่ค่อยได้ลงสนามมากเท่าไหร่นัก แต่ในเกมที่แล้วกับสโต๊ค ซิตี้ เขากลับระเบิดฟอร์มได้อย่างถูกที่ถูกเวลา จนชาวเน็ตต่างก็ตั้งฉายาแบบยกย่องปนฮาว่า "ปิร์โล่เมืองเวลส์" คาดว่าประสบการณ์และฝีเท้าของเขา จะช่วยประคับประคองแดนกลางในเกมนี้ที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งได้แน่

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทีม
พอล ทิสเดล :

     "มันเป็นเรื่องของความเสี่ยงว่าคุณจะเสี่ยงมากหรือเสี่ยงน้อย แต่สิ่งที่เราไม่ต้องการคือตั้งรับในเกมนี้ เราจะไม่ทำแค่รอเฉยๆแน่นอน ผมไม่ต้องการทำแบบนั้น ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องมุ่งมั่นเข้าไว้ ผมไม่คิดว่าว่าเราควรจะรอให้เกมเข้าทางของเราแน่"

เจอร์เกน คล็อปป์ :

     "ทีมที่จะลงเล่นคืนนี้จะต้องการชัยชนะอย่างแน่นอน 100% ด้วยทุกอย่างที่พวกเขามี แต่มันจะเป็นทีมที่อาจไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อนมากนัก นั่นคือข้อเท็จจริง หากเอ็กเซเตอร์มีโอกาสและจากนั้นพวกเขาคว้ามันไม่ได้ นั่นหล่ะคือเรื่องของฟุตบอล เราต้องไปเอาชนะเกมนี้เท่านั้น เพื่อเข้าสู่รอบต่อไป"

ฟอร์มการเล่น

     เจ้าบ้านเอ็กเซเตอร์ ฟอร์มกำลังย่ำแย่แบบสุดขีด 5 นัดที่ผ่านมา แพ้ไปถึง 4 ครั้ง แถมเป็นการแพ้ติดต่อกันทั้ง 4 นัดอีกต่างหาก หากนับแค่ผลงานในบ้าน 3 นัดที่ผ่านมาก็แพ้รวดเช่นกัน ทางด้านทีมเยือนลิเวอร์พูล หลังจากเอาชนะในลีกติดต่อกัน 2 นัดติด ก็ดันไปพลาดท่าพ่ายให้เวสต์แฮมถึง 0-2 จนกลับคืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้งในเกมที่แล้ว บุกไปเฉือนสโต๊ตได้ 1-0 นับรวม 5 เกม ชนะ 3 แพ้ 2 ถือว่าพอไปวัดไปวา

ประวัติการพบกัน

- การพบกันครั้งก่อนระหว่างสองทีมในศึกลีก คัพ ปี 2011 เคนนี่ ดัลกลิช พาทีมบุกชนะได้ 3-1

- การพบกันทั้งหมด 5 ครั้งในทุกรายการ ลิเวอร์พูลชนะเรียบ 100% ยิงได้ 19 ลูก ขณะที่เอ็กเซเตอร์ยิงได้แค่ 2 ลูกเท่านั้น

- พวกเขาเคยพบกันแค่ครั้งเดียวในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อปี 1950 ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเอาชนะได้ 3-1 และทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3): อดัม บ็อกดาน - แบร็ด สมิธ, ติอาโก้ อิลอรี่, โฆเซ่ เอ็นริเก้, คอนนอร์ แรนดัลล์ - โจ อัลเลน, ไรอัน เคนท์, คาเมรอน บรานนาแกน - เชยี่ โอโจ้, คริสติย็อง เบนเตเก้, ชูเอา คาร์ลอส เตเซร่า

ทรรศนะ Siamliverpool

     แม้ทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ จะอุดมไปด้วยนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ ลิเวอร์พูล ก็ยังคงมีคุณภาพนักเตะที่ดีกว่าที่จะเอาชนะได้สบายๆในเกมนี้ และทะลุเข้าสู่รอบต่อไป ความห่างชั้นกันระหว่างทั้งสองทีม ทำให้มันใจว่า "หงส์แดง" จะคว้าชัยไปได้แบบง่ายๆ แถม เอ็กเซเตอร์ ก็ยังอยู่ในช่วงฟอร์มไม่เอาอ่าวเช่นนี้ คงจะเป็นเรื่องช็อคโลกแน่ๆ หากพวกเขาเล่นได้สูสีกับ ลิเวอร์พูล แม้จะเต็มไปด้วยดาวรุ่ง แต่มั่นใจว่าทัพนักเตะ "เร้ด แมชชีน" ต้องเป็นฝ่ายชนะถล่มทลายอย่างแน่นอน

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0

ADS