หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ซันเดอร์แลนด์ -vs- ลิเวอร์พูล (02.45 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ซันเดอร์แลนด์ -vs- ลิเวอร์พูล (02.45 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ซันเดอร์แลนด์ -vs- ลิเวอร์พูล (02.45 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ซันเดอร์แลนด์ -vs- ลิเวอร์พูล

วันพฤหัสที่ 31 ธันวาคม 2015 เวลา 02.45 น.

สนาม สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์

ผู้ตัดสิน เควิน เฟรนด์

     ลิเวอร์พูล ทีมหงส์แดงแห่ง เมอร์ซีย์ไซด์ มีคิวออกไปเยือนทีมหนีตกชั้นอย่าง ซันเดอร์แลนด์ ถึงถิ่น สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ หลังเพิ่งโชว์ฟอร์มสุดยอดในการคว่ำจ่าฝูงอย่า เลสเตอร์ ซิตี้ มาได้สำเร็จ เกมนี้สนุกแน่สำหรับเจ้าบ้านที่ฟอร์มกำลังดำดิ่งลงเหว 4 แพ้รวดมาใน 4 เกมหลังสุด เสียถึง 11 ประตู คืนนี้จะเป็นงานง่ายสำหรับ ลิเวอร์พูล หรือไม่ ต้องคอยติดตามกัน ตี 2.45 ห้ามพลาดเด็ดขาดสำหรับสาวกเดอะค็อป

สภาพทีมล่าสุด : ซันเดอร์แลนด์

     ทีมแมวดำยังคงมีปัญหาให้กลุ้มใจจากอาการบาดเจ็บของคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักอย่าง ยูเนส กาบูล และ จอห์น โอเช ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในหลายตำแหน่งจากนัดที่แล้วโดยจะส่ง เวส บราวน์ ลงเล่นคู่ เซบาสเตียน โคอาเตส แต่ข่าวดีคือ เจอร์เมน เดโฟ น่าจะพร้อมมีส่วนร่วมในเกมนี้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ฟาบิโอ บอรินี่ และ สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ จะเป็นเพียงสำรองที่ม้านั่งข้างสนาม

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     ลิเวอร์พูล ยังคงมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บอยู่หลักๆ 3 ราย ได้แก่ โจ โกเมซ, แดนนี่ อิงส์ และ มาร์ติน สเคอร์เทล อย่างไรก็ดีเชื่อว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะยังยึดทีมชุดเดิมจากนัดชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยเปลี่ยนแปลงจุดเดียวคือให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ ลงแทน ดิว็อค โอริกี ที่เจ็บแฮมสตริง ส่วน จอร์ดอน ไอบ์ เพิ่งฟื้นไข้จากอาการป่วย ทำได้แค่ซ้อมที่ เมลวู้ด เช่นเดียวกับ เจมส์ มิลเนอร์

คีย์แมน

ซันเดอร์แลนด์ : ยันน์ เอ็มวีล่า

     กองกลางเฟร้นซ์แมนวัย 25 ปี เป็นแข้งน่าจะรายเดียวของ ซันเดอร์แลนด์ ที่ยังเล่นได้โดดเด่นที่สุดของทีม ท่ามกลางผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีระดับคอยรายล้อม เขาเป็นมิดฟิลด์สไตล์ชอบบู๊ปะทะดุดัน แม้จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมเท่าไรก็ตาม จุดเด่นอยู่ที่การตัดเกมและการแท็คเกิ้ล หน้าที่ของเขาคืนนี้คือการรบกวนจังหวะการเล่นของแดนกลาง ลิเวอร์พูล นอกเหนือจากเกมรับ การสร้างโอกาสของเขาก็ไม่ธรรมดา (24 ครั้ง) มากที่สุดของทีม เรียกว่าครบวงจรสำหรับ เอ็มวีล่า

ลิเวอร์พูล : โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่

     โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ ดูจะมีพัฒนาการที่เชื่องช้ากับการเล่นบน พรีเมียร์ ลีก แม้แฟนบอลจะมองว่าฟอร์มของเขาสุดแสนห่วย แต่ก็ยังเชื่อว่า เขายังอันตรายในการเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าหรือหน้าต่ำอยู่ดี ด้วยความเร็ว, เล่ห์เหลี่ยม และการเคลื่อนที่ๆ อันตราย ทั้งหมดนี้ คือสิ่้งที่เขาจะแสดงให้เห็นในรังเหย้าของทีมแมวดำ จากเกมชนะ เลสเตอร์ เขามีจุดเด่นในเรื่องของการหนีตัวประกบขณะอยู่ในเขตโทษ และพร้อมถวายพานให้เพื่อนจบสกอร์ สิ่งที่ต้องปรับปรุงเหลือเพียงความเฉียบคมในการหาพื้นที่เท่านั้นเอง

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

แซม อัลลาไดซ์ :

     "เราประสบความยากลำบากในการเล่นเกมรับเป็นทีม เราไม่เข้าปะทะหรือเผชิญกับคู่แข่งมากพอ นั่นคือปัจจัยสำคัญจาก 2 เกมที่ผ่านมา เราต้องทำให้ดีกว่านี้ ถ้าเรายังหวังจะได้แต้มในเกม ผู้เล่นของเราครองบอลไม่ได้เลย นั่นก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันอีกอย่างหนึ่ง"

เจอร์เก้น คล็อปป์ :

     "ผมคิดว่าการเล่นบอลจังหวะสองคือสิ่งสำคัญที่ผมคิดถึงเกี่ยวกับ ซันเดอร์แลนด์ เราต้องการปรับปรุงสถานการณ์ของเรา เราต้องการพัฒนา เราต้องการแต้มให้มากที่สุดในช่วงเวลาที่สำคัญของลีก เราต้องไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ และมุ่งมั่นมีสมาธิตั้งแต่วินาทีแรกเหมือนเกมกับ เลสเตอร์"

ฟอร์มการเล่น

     ผลงานในบ้านของ ซันเดอร์แลนด์ นับว่าไม่ห่วยอย่างที่ใครคาดคิด 10 นัดหลังสุด ชนะ 4, เสมอ 2 แพ้ 4 ขณะที่ ลิเวอร์พูล ทีมเยือน 9 นัดหลังสุด ชนะ 3, เสมอ 3 แพ้ 3 เรียกว่าไม่ดีกว่ากันไปเท่าไรนักสำหรับทั้งสองทีม

ประวัติการพบกัน

     6 ครั้งหลังสุดที่พบกัน ลิเวอร์พูล ไม่แพ้เลย โดยชนะ 4 เสมอ 2 แถมสถิติสุดห่วยของทีมแมวดำคือชนะเพียง 3 จาก 28 ครั้งที่เจอกันบนลีกสูงสุด

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

Double Click on image to Enlarge.

ซันเดอร์แลนด์ (4-4-2) : คอสเทล พันติลิม่อน - บิลลี่ โจนส์, เซบาสเตียน โคอาเตส, เวส บราวน์, พาทริค ฟาน อันโฮลท์ - ยานน์ เอ็มวีล่า, ลี แคตเตอร์โมลด์, จอร์ดี้ โกเมซ, อดัม จอห์นสัน - เจอร์เมน เดโฟ, ฟาบิโอ บอรินี่

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ซิมง มิโญเลต์ - เนธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลแบร์โต้ โมเรโน่ - เอ็มเร่ ชาน, ลูคัส เลว่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - คริสติย็อง เบนเตเก้

ทรรศนะ Siamliverpool

     ซันเดอร์แลนด์ จำเป็นต้องฮึดเต็มที่ หากยังคิดอยู่รอดใน พรีเมียร์ ลีก แต่การเจอกับ ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มอาจจะไม่เนี้ยบ แต่ก็กำลังมั่นใจมาจากการชนะ เลสเตอร์ ได้ ย่อมเป็นงานยากของ อัลลาไดซ์ ยิ่งหากคิดจะแลกกันเพื่อเอา 3 แต้ม งานนี้ยิ่งเข้าทางทีมของ คล็อปป์ อย่างมาก เชื่อว่าทีมที่หลังห่วย หน้าฝืดอย่างเจ้าบ้าน น่าจะโดนเกมเพรสซิ่งเล่นงานจนพังยับเยินในที่สุด

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0

ADS