หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว แคปิตอล วัน คัพ เซาธ์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล (02.45 น.)

พรีวิว แคปิตอล วัน คัพ เซาธ์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล (02.45 น.)

พรีวิว แคปิตอล วัน คัพ เซาธ์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล (02.45 น.)

พรีวิว แคปิตอล วัน คัพ เซาธ์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล

วันพฤหัสที่ 3 ธันวาคม 2015 เวลา 02.45 น. 

สนาม เซนต์ แมรี่ส์

ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์

 

     ฟุตบอล แคปิตอล วัน คัพ ในคืนนี้ เซาธ์แฮมป์ตัน จะลงทำศึกดวลกับ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งที่ 8 ในประวัติศาสตร์บนรายการนี้ที่ เซนต์แมรี่ส์ ผู้ชนะเท่านั้นที่จะหลุดเข้าไปในรอบรองชนะเลิศ ฤดูกาลนี้เจ้าบ้านนักบุญฟอร์มในลีกไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไร ด้วยผล ชนะ 5, เสมอ 5 แพ้ 4 อยู่ในอันดับ 10 ของตารางลีก จึงเป็นไปได้ว่าใน ลีก คัพ พวกเขาก็ต้องการตอบแทนแฟนๆ เช่นกัน แถมเป็นการเล่นในบ้านตัวเองด้วย แต่คืนนี้ไม่ง่ายแน่เพราะ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยืนยันแล้วว่าพร้อมส่ง 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดเพื่อเข้ารอบสถานเดียว แม้อาจจะดูอ่อนล้าไปบ้าง จากโปรแกรมที่อัดแน่น แต่เน้นพิเศษแบบนี้เชื่อว่าข่าวดีน่าจะเป็นของเราชาว ลิเวอร์พูล ที่จะหักด่านนักบุญเข้ารอบต่อไป

 

สภาพทีมล่าสุด : เซาธ์แฮมป์ตัน

     กราเซียโน่ เปลเล่ ดาวยิงอิตาเลียนที่พลาดเกมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะติดโทษแบน จะได้กลับคืนสู่ทีมพร้อมเป็นตัวจริงในคืนนี้ พร้อมขยับ เชน ลอง ไปเล่นริมเส้น ส่วน โชเซ่ ฟอนเต้ ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ลงหรือไม่หลังเจ็บที่หัวเข่าจากนัดที่แล้ว หากลงไม่ได้ โรนัลด์ คูมัน ก็จะใช้ สตีเว่น คอลเกอร์ เล่นแทน ขณะที่ เจย์ โรดริเกวซ ยังคงต้องรักษาตัวต่อไปจนถึงเดือนมกราคม

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     สองคู่หูเลือดอังกฤษอย่าง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เพิ่งได้ลงสนามในเกมชนะ สวอนซี 1-0 อาจจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมวันนี้ ทางด้าน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ถูกพักในนัดก่อนเพราะเจ็บเอ็นร้อยหวาย เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ยืนยันว่าจะส่งลงเล่นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของเกม เช่นเดียวกับ ลูคัส เลว่า ที่พ้นโทษแบน ก็จะกลับมาทวงตำแหน่งในแดนกลางเช่นเดิม และมีการสลับนายทวารมาใช้ อดัม บ็อกดาน เฝ้าเสา

คีย์แมน

เซาธ์แฮมป์ตัน : ดูซาน ทาดิช

     ทาดิช พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งในฤดูกาลนี้ว่าทีมนักบุญขาดเขาไม่ได้ หลังทำไปแล้ว 3 ประตูจากการลงสนาม 13 นัด เขาจัดว่าเป็นจอมสร้างโอกาสตัวจริง โดยสร้างโอกาสให้ทีมในการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ไปถึง 36 ครั้ง และเปลี่ยนเป็น 3 แอสซิสต์สำเร็จ ยิ่งมาจับคู่กับ เปลเล่ ที่ปีนี้ยิงได้เป็นกอบเป็นกำยิ่งอันตรายในจังหวะการเล่นพื้นที่สุดท้าย ที่ต้องการความเร็วและคิลเลอร์พาสจาก ทาดิช คืนนี้เขาจัดว่าเป็นคนสำคัญมากที่จะเปิดช่องแนวรับของ ลิเวอร์พูล ที่แกร่งในระยะหลัง ดังนั้น คล็อปป์ ย่อมไม่ประมาทเขาแน่

ลิเวอร์พูล : มาร์ติน สเคอร์เทล

     นับตั้งแต่ คล็อปป์ เข้ามาปรับปรุงทีม แผงหลังของคลับหงส์ก็ดูแน่นหนาขึ้น ไม่เล่นกันมั่วเหมือนยุค ร็อดเจอร์ส ส่วนหนึ่งมาจากระบบเล่นแบบเพรสซิ่งที่ทำให้กองหลังมีงานหนักน้อยลง ด้วยเหตุนี้ทำให้ สเคอร์เทล กลับมาโดดเด่นอีกครั้งในทีมชุดนี้ เกมชนะ แมน ซิตี้ สเคอร์เทล แสดงออกมาให้เห็นในการคุมเกมรับที่แน่นปึ้ก นาทีนี้ต้องยอมรับว่า ลิเวอร์พูล ขาดกองหลังตัวไหนก็ได้ที่ไม่ใช่เขา เกมคืนนี้ที่ เซนต์ แมรี่ส์ เราก็คาดหวังว่าเขาจะรักษามาตรฐานนี้ไว้ในการเจอ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่มีแนวรุกความเร็วสูงหลายตัวอ

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

โรนัลด์ คูมัน : 

Ronald Koeman's side have lost their last two matches

     "เรารู้ดีว่า ลิเวอร์พูล ชอบเล่นเพรสซิ่ง และถ้าคุณเอาชนะการเพรสซิ่งนั้นได้ คุณก็จะมีทางเลือกที่มากขึ้นและความเป็นไปได้ที่จะชนะ พวกเขาเล่นแตกต่างไปจากทีมส่วนใหญ่ที่ใช้กองหน้าตัวเดียว แต่ผมไม่กลัว ผมเตรียมทีมมาเพื่อเอาชนะการเพรสซิ่งนี้ และเราย่อมมีโอกาสดีในการสร้างสรรค์เกม"

เจอร์เก้น คล็อปป์ :

Jurgen Klopp (right) talks to former Liverpool midfielder Steven Gerrard, who has returned to the club to train

     "ในโลกของอุดมคติ คุณย่อมมีผู้เล่น 6 รายที่ไม่พอใจที่ไม่ได้อยู่ในสนาม แต่นั่นไม่ใช่สถานการณ์ของเรา มันดูจะสับสนเกินไป แต่นี่คือทีมที่แข็งแกร่งที่สุดของเรา ผมมั่นใจ เราคิดถึงแต่การเจอ เซาธ์แฮมป์ตัน มันไม่สำคัญเลยว่าใครรอเราในรอบต่อไป ถ้าเราต้องการเข้ารอบ เราต้องสู้อย่างเดียว"

ฟอร์มการเล่น

     ทางด้านเจ้าถิ่นทีมนักบุญฟอร์มในบ้านในทุกรายการ นับว่ามีมาตรฐานที่ดี 9 นัดในบ้าน แพ้แค่ 2 เกม ชนะถึง 4 แต่ส่วนใหญ่เกมที่ชนะมักเป็นทีมเล็กๆ อย่าง บอร์นมัธ, วิลล่า, สวอนซี และ นอริช ผิดกับฝั่ง ลิเวอร์พูล ที่ออกนอกบ้าน 9 นัดหลังสุด ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 1 เรียกว่าเหนียวแน่นมากๆ ยามออกนอกรัง

ประวัติการพบกัน

     ครั้งสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล ออกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ผลจบลงด้วยการบุกชนะสกอร์ 2-0 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แต่การเจอกันหนล่าสุดใน พรีเมียร์ ลีก เพิ่งผ่านไปไม่นานนี้เมื่อเดือนตุลาคม ทีมนักบุญบุกมาแบ่งแต้มไปจาก แอนฟิลด์ ได้ 1-1 อย่างไรก็ตามถ้าเป็นในถ้วยรายการนี้ เคยพบกันเมื่อซีซั่น 2002-2003 ปีนั้น ลิเวอร์พูล ถล่มที่ แอนฟิลด์ ไป 3-1 ในรอบ 3 และท้ายสุดปีนั้นคว้าแชมป์ ลีก คัพ ได้สำเร็จ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

Double Click on image to Enlarge.

 

เซาท์แฮมป์ตัน (4-2-3-1) : มาเท่น สเตเคเลนเบิร์ก - มายะ โยชิดะ, สตีเว่น คอลเกอร์, เวียร์กิล ฟาน ไดจ์น, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - วิคเตอร์ วานยาม่า, โอริออล โรเมอู - เชน ลอง, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, สตีเว่น เดวิส - กราเซียโน่ เปลเล่

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อดัม บ็อกดาน - เนธาเนี่ยล ไคลน์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - เจมส์ มิลเนอร์, ลูคัส เลว่า - จอร์ดอน ไอบ์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, อดัม ลัลลาน่า - คริสติย็อง เบนเตเก้, 

ทรรศนะ Siamliverpool

     เกมนี้ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาดีพอสมควร 3 เกมหลังสุดในทุกรายการสามารถเก็บชัยรวด และในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ยังเป็นทีมที่เล่นนอกบ้านได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการบุกชนะ เชลซี 3-1, รูบิน คาซาน 1-0 และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 ในรายการนี้ คล็อปป์ ก็ยังเน้นทุกถ้วยอย่างที่เคยกล่าวไว้ตอนเข้ามาทำทีมใหม่ๆ ขณะที่เจ้าบ้าน เซาธ์แฮมป์ตัน พ่ายสองเกมหลังสุดมาหมาดๆ อาจต้องตั้งใจเป็นพิเศษในคืนนี้ อย่างไรก็ดีการเปิดเกมรุกเข้าใส่อาจเข้าทาง ลิเวอร์พูล ที่รอจังหวะสวนกลับตามสไตล์ นอกจากนี้สถิติที่พบกันมา 4 หนท้าย ต้องบอกว่า "หงส์แดง" ไม่เคยแพ้และเก็บชัยได้ถึง 3 ครั้ง ดังนั้นวันนี้เป็นฤกษ์งามยามดีเหลือเกินที่เราจะผ่านเข้ารอบต่อไป

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 3-1

ADS