หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / คะแนนความสามารถนักเตะ ลิเวอร์พูล 1-0 สวอนซี ซิตี้

คะแนนความสามารถนักเตะ ลิเวอร์พูล 1-0 สวอนซี ซิตี้

คะแนนความสามารถนักเตะ ลิเวอร์พูล 1-0 สวอนซี ซิตี้

          จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับสามแต้มอันยากลำบากในศึก "หงส์ดาร์บี้" และก็เป็น ลิเวอร์พูล ที่เฉือนเอาชนะ สวอนซี ซิตี้ ไปได้ 1-0 จากจุดโทษของ เจมส์ มิลเนอร์ เพชฌฆาตจุดโทษคนใหม่ แม้ว่ารูปเกมอาจจะน่าเบื่อไปบ้างเพราะการขาดหายไปของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แต่การเก็บชัยมาได้น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า และทำให้ทีมมีคะแนนตามหลังอันดับ 4 เหลือเพียงแค่ 4 แต้มเท่านั้น วันนี้เราจะไปดูผลสอบหลังเกมของเหล่าบรรดาแข้ง "หงส์แดง" ที่ลงทำศึกว่าใครเป็นอย่างไรก็บ้าง

ตัวจริง

ซิมง มิโญเล่ต์ - 6/10

          รักษามาตรฐานได้ตามเกณฑ์สำหรับนายทวารเบลเยียมรายนี้ ซึ่งแทบจะไม่ค่อยมีงานยากสักเท่าไหร่ เพราะได้กองหลังคอยช่วยดักไว้ก่อนแล้ว แถมเกมรุกของ สวอนซี ซิตี้ ก็ยังซัดไปเข้าเป้าเลยแม้แต่ช็อตเดียว

นาธาเนี่ยล ไคลน์ - 7/10

          เป็นหนึ่งในเกมที่เขาสามารถควบคุมเก็บรับและรุกได้ดีอีกครั้ง เรียกว่าเป็นส่วนสำคัญในเกมรุกกาบขวาเลยก็ว่าได้ ในขณะที่เกมรับก็ไล่กวด จอร์แดน อายิว ได้ตลอดทั้งเกม

มาร์ติน สเคอร์เทล - 6/10

          สำหรับปราการหลังตัวเก่งของทีม เกมนี้ค่อนข้างเงียบเพราะแทบไม่ต้องปะทะกับกองหน้าของคู่แข่งเลย จนกระทั่ง บาเฟติมบี้ โกมิส ถูกส่งลงมาเป็นสำรอง ถึงจะทำให้เขาต้องเจอกับงานที่หนักบ้าง โดยรวมก็ไม่มีอะไรให้ติมากนัก

เดยัน ลอฟเรน - 7/10

          อาจเป็นเกมที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ของ ลอฟเรน เพราะเขาสามารถจัดการกับกองหน้าของคู่แข่งได้อยู่หมัด รวมไปถึงการต่อเกม, ออกบอล และครองบอล ซึ่งทำได้ดีไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ถ้าเล่นแบบนี้ตั้งแต่แรกก็คงไม่ต้องนั่งก้นด้านอยู่ที่ข้างสนามแน่นอน

อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - 6.5/10

          ด้วยพลังงานที่เหลือล้นทำให้เขาสามารถวิ่งขึ้น-ลงเติมเกมรุกได้สบายๆ ในขณะที่เกมรับก็สามารถจัดการได้ไม่มีปัญหา จริงอยู่ที่ผลงานในสนามอาจไม่โดดเด่นเปรี้ยงปร้าง แต่เขาก็เป็นขาประจำในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป ที่จะขาดไม่ได้ในเกมรับ แถมยังสร้างมิติในเกมรุกริมเส้นได้อีกด้วย

เอ็มเร่ จัน - 7.5/10 (แมน ออฟ เดอะ แมตช์)

          ถึงใครจะว่าเขาบ้าเลี้ยง แต่สำหรับเกมนี้คงต้องยกให้เป็น "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" จริงๆ เพราะเราแทบจะได้ยินชื่อเขาหลายต่อหลายครั้ง และแน่นอนว่าได้ออกกล้องบ่อยกว่าชาวบ้าน โดยเขาสามารถงัดฟอร์มแบบฉบับจอมทัพเยอรมันออกมาได้เกือบครบ (ยกเว้นยิงไกล) ทั้งการออกบอลสั้น, วางบอลยาว, การไล่บอล และการสร้างสรรค์เกมจากแดนกลาง รวมไปถึงการประสานงานกับ อดัม ลัลลานา และ เจมส์ มิลเนอร์ ก็ทำได้ลงตัว

เจมส์ มิลเนอร์ - 7/10

LIVERPOOL, ENGLAND - Sunday, November 29, 2015: Liverpool's James Milner scores the first goal against Swansea City from the penalty spot during the Premier League match at Anfield. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          ในยามที่ทีมไม่มีชื่อของ ลูคัส เลว่า ลงสนาม ก็ยังมี เจมส์ มิลเนอร์ ที่คอยเก็บกวาดไล่กวดเกมรุกของ "หงส์ขาว" ให้ก่อนที่เกมรับจะสานงานต่อ และด้วยพลังงานที่ล้นเหลือทำให้เกมนี้เขากลายเป็นคีย์แมนสำคัญในการขับเคลื่อนเกมจากแดนกลาง น่าเสียดายที่สปีดของเขายังเป็นปัญหาอยู่

อดัม ลัลลานา - 6/10

          สำหรับมิดฟิลด์หนุ่มแดนผู้ดีคนนี้ ไม่มีอะไรน่าผิดหวังกับบทบาทกองกลางตัวกลาง ซึ่งสามารถช่วยทีมไล่ตัดบอลได้หลายครั้งและยังทำให้ทีมเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้อย่างง่ายดาย แต่ทว่าก็ยังติดปัญหาขี้เลี้ยงจนลืมตำแหน่งเหมือนเดิม

จอร์ดอน ไอบ์ - 6.5/10

LIVERPOOL, ENGLAND - Sunday, November 29, 2015: Liverpool's Jordon Ibe in action against Swansea City's Neil Taylor during the Premier League match at Anfield. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          สนองความไว้วางใจให้กับ คล็อปป์ ได้เป็นอย่างดี สำหรับเจ้าหนู ไอบ์ โดยเกมนี้สามารถโชว์กระชากลากเลื้อยทำลายเกมรับของคู่แข่งได้บ่อยครั้ง แม้ว่าจังหวะสุดท้ายยังต้องแก้ไขอีกเยอะก็ตาม แต่เชื่อเลยว่าในอนาคตเขาจะกลายเป็นตัวอันตรายของทีมแน่นอน

โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ - 5/10

          บอกเลยว่าถ้าเกมนี้ไม่มีสามแต้ม ผลสอบของเขาคงเหลือแค่ 4 แน่นอน เพราะเขาทำเสียบอลอยู่บ่อยครั้ง แถมยังเงียบหายไปจากเกมจนถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงกลางครึ่งหลัง เชื่อว่าส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ทีมไม่มี คูตินโญ่ อยู่ในสนาม จึงทำให้คอมโบบราซิเลี่ยนไม่ทำงาน ได้แต่หวังว่าเกมลีกนัดถัดไปจะได้เห็นอะไรที่ดีกว่านี้

คริสติย็อง เบนเตเก้ - 5/10

          แน่นอนคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าเกมนี้ "คิงคอง" เบนเตเก้ เล่นได้ดีตามที่คาดการณ์ไว้ เพราะเขาไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม แม้ว่าจะมีจังหวะจบสกอร์บ้างบางครั้ง แต่ก็ยังไม่สร้างความปั่นป่วนให้กับเกมรับคู่แข่งเท่าไหร่นัก

ตัวสำรอง

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - 6/10 (ลงสนามมาแทน โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ ในนาทีที่ 64)

LIVERPOOL, ENGLAND - Sunday, November 29, 2015: Liverpool's captain Jordan Henderson in action against Swansea City during the Premier League match at Anfield. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          การกลับมาลงสนามหนนี้ไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง นอกเสียจากจังหวะเกมที่ขาดหายไปนาน อย่างไรก็ดีเกมนี้ยังดูเกร็งๆ อยู่บ้าง เพราะเพิ่งจะหายเจ็บ แต่ก็ยังรักษามาตรฐานจอมขยันได้ตามฟอร์ม

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ - 6/10 (ลงสนามมาแทน คริสติย็อง เบนเตเก้ ในนาทีที่ 71)

          คงไม่มีใครต้องเป็นห่วงในเรื่องฝีเท้าของเขา แต่ที่ต้องห่วงก็น่าจะเป็นเรื่องเสี่ยงเจ็บมากกว่า ซึ่งในเกมนี้ยังดูสนิมเกาะเพียบและดูจะช้ากว่าเดิมไปเยอะพอสมควร หวังว่าเขาจะกลับมาได้เต็มสูบในไม่ช้านี้

โคโล่ ตูเร่ - ไม่มีคะแนน (ลงสนามมาแทน จอร์ดอน ไอบ์ ในนาทีที่ 90)

เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนตัวเพื่อเผาเวลาของ คล็อปป์ ทำให้เขาแทบจะไม่ได้สัมผัสบอลเลยด้วยซ้ำ

ผู้จัดการทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์ - 8/10

LIVERPOOL, ENGLAND - Sunday, November 29, 2015: Liverpool's manager Jürgen Klopp during the Premier League match against Swansea City at Anfield. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          สำหรับการวางหมากก่อนเกมถือว่าเซอร์ไพรส์พอสมควร แต่ก็ไม่ถึงขนาดพลิกความคาดหมายมากนัก ซึ่งการถอด ลูคัส เลว่า เป็นสำรองและใช้ เอ็มเร่ จัน คอยคุมเกม นอกจากนี้ยังถอย อดัม ลัลลานา มาเล่นเป็นมิดฟิลด์และขยับ โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ จากหน้าเป้าเป็นตัวข้างแทน เพื่อเปิดทางให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ ล่าตาข่ายเต็มรูปแบบ นับเป็นสูตรที่น่าสนใจ เพราะ คล็อปป์ เชื่อว่าเกมนี้คู่แข่งต้องมาตั้งเกมรับแล้วรอโต้กลับแน่นอน จึงไม่จำเป็นต้องเน้นเกมรับเท่าไหร่และอัดตัวรุกลงได้เต็มสตรีม ส่วนเรื่องการเปลี่ยนตัวก็ไม่ได้มีอะไรพลิกโผ เพราะเป็นการส่งแข้งที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาลงเคาะสนิมเท่านั้นเอง ในขณะที่การส่ง โคโล่ ตูเร่ ลงสนามในนาทีที่ 90 เชื่อว่าเป็นเรื่องของการเผาเวลาล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับการปรับจูนแต่อย่างใด

ADS