หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / คะแนนความสามารถนักเตะ ลิเวอร์พูล 1-2 คริสตัล พาเลซ

คะแนนความสามารถนักเตะ ลิเวอร์พูล 1-2 คริสตัล พาเลซ

คะแนนความสามารถนักเตะ ลิเวอร์พูล 1-2 คริสตัล พาเลซ

          ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับความพ่ายแพ้หนแรกในการคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังโดน คริสตัล พาเลซ บุกเฉือน 2-1 คาถิ่นแอนฟิลด์ อย่างไรก็ดีปัญหาทั้งหมดอยู่ที่เกมรุกที่ขาดความเฉียบคมและใช้โอกาสเปลืองสุดๆ บวกกับกองหลังที่ต้องสังเวย มามาดู ซาโก้ ที่เจ็บระหว่างเกมจนต้องเปลี่ยนตัวออก ซึ่งทำให้ทุกอย่างดูแย่ลงทันที วันนี้เราจะไปดูคะแนนสอบหลังเกมนี้กันว่าใครเล่นเป็นอย่างไรกันบ้าง....

ตัวจริง

ซิมง มิโญเล่ต์ - 5.5/10

          นายทวารเลือดเบลเยียมกลายเป็นเหยื่อทันที หลังจากกองหลังเปิดโอกาสปั้นให้เกมรุกของ "ปราสาทเรือนแก้ว" โจมตีอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าเขาจะช่วยเซฟในจังหวะสำคัญหลายต่อหลายครั้ง แต่ประตูที่เสียในช่วงท้ายเกม มิโญเล่ต์ รับผิดไปเต็มๆ กับการชกลูกโขกของ สกอตต์ แดนน์ ไปเข้าหัวของ แดนน์ อีกครั้ง แทนที่จะชกออกหลังหรือปัดไปในทิศทางที่ไม่อยู่หน้าปากประตูของตัวเอง

นาธานเนี่ยล ไคลน์ - 6.5/10

          สำหรับแบ็คขวารายนี้ นับเป็นเกมที่โชว์ฟอร์มได้ดีพอสมควร โดยทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพทั้งเกมรับและเกมรุก ซึ่งสามารถประสานงานกับ จอร์ดอน ไอบ์ ได้อย่างลงตัว และมีจังหวะครอสบอลสวยๆ ให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่อยู่อีกฝากได้อย่างพอดิบพอดี

มาร์ติน สเคอร์เทล - 6/10

          หัวใจสำคัญในเกมรับของ ลิเวอร์พูล ที่ตอนนี้จะขาดไม่ได้ บอกเลยว่าถ้าต้องเสียเขาไปอีกคน "หงส์แดง" คงแย่แน่ อย่างไรก็ดีจังหวะเสียลูกที่สอง เขากลับยืนว่างและไม่ได้วิ่งไปประกบใครเลย แถมในตอนที่ แดนน์ ขึ้นโหม่งนั้น บอลก็ลอยข้ามหัวเขาไปทั้งสองครั้งอีกด้วย เรียกว่ายืนประกบผิดแล้วยังดวงกุดในตำแหน่งที่ยืนซ้ำเข้าไปอีก

มามาดู ซาโก้ - 6/10

LIVERPOOL, ENGLAND - Sunday, November 8, 2015: Liverpool's Mamadou Sakho is substituted by manager Jürgen Klopp during the Premier League match against Crystal Palace at Anfield. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออกในเวลาต่อมา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ในสนาม เขาทำผลงานได้ตามมาตรฐานและไม่มีจังหวะผิดพลาดมากนัก ไม่แน่ว่าหากมีเขาอยู่ในสนาม อาจทำให้ทีมไม่เสียถึงสองลูกก็เป็นได้

อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - 5.5/10

          มีขึ้นก็ต้องมีลงสำหรับแบ็คซ้ายชาวสเปน ซึ่งก่อนหน้านี้ยังโชว์ฟอร์มแจ่มอยู่เลย แต่พอมาเกมนี้กลับเล่นไม่ออกดื้อๆ เพราะเขาไม่สามารถจัดการเกมรุกของ ยานนิค โบลาซี่ ได้ และแน่นอนว่าทำให้ทีมโดนเจาะทางกาบซ้ายอยู่เป็นประจำ

ลูคัส เลว่า - 6.5/10

          มิดฟิลด์ตัวรับบราซิเลี่ยน เล่นได้ดีตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แต่ปัญหาคือเรื่องความฟิตและสภาพร่างกายที่เริ่มดร็อปลงไป หลังผ่านไป 70 นาทีของเกม อย่างไรก็ดีบทบาทตัวรับของเขาดูจะถูกใจ คล็อปป์ ไม่น้อยและน่าจะทำให้เขากลับมายึดตัวจริงในทีมได้เลยเหมือนกัน เพราะนอกจากการตัดเกมที่ดูดีขึ้น การออกบอลที่ดูจะเป็นจุดอ่อนของเขาก็ปรับปรุงและกลายเป็นอีกคนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

เอ็มเร่ ชาน - 5/10

          ลูกรักหมายเลขหนึ่งของ คล็อปป์ ที่ยังคงเล่นตามใจจนได้เรื่อง ทั้งการพาบอลลากเลื้อยแต่มักไปได้ไม่ไกลและการออกบอลที่ช้าจนทำให้เพื่อนเสียจังหวะ ทำให้เกมนี้เขากลายเป็นจุดอ่อนในแดนกลางของทีมไปโดยปริยาย

อดัม ลัลลานา - 6/10

          สำหรับอดีตแข้ง "นักบุญแดนใต้" ผู้นี้ โชว์ฟอร์มได้ตามมาตรฐานและมีส่วนกับประตูที่ทีมทำได้ แน่นอนว่าความคล่องตัวและทีมเวิร์คระหว่างเขากับเพื่อนร่วมทีม ทำให้ ลัลลานา ดูน่ากลัวขึ้นมาทันที หากไม่ติดเล่นบอลชายเดี่ยวไปหน่อย

จอร์ดอน ไอบ์ - 7/10

ADELAIDE, AUSTRALIA - Monday, July 20, 2015: Liverpool's Jordon Ibe in action against Adelaide United during a preseason friendly match at the Adelaide Oval on day eight of the club's preseason tour. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" และเว็บไซต์ในเครือ ลิเวอร์พูล ต่างลงคะแนนให้เขาเป็น "แมน อ็อฟ เดอะ แมตช์" นั่นเป็นเพราะเขาสามารถระเบิดฟอร์มเก่ง ชนิดที่ทำให้ทีมลืมชื่อของ ราฮีม สเตอร์ลิง ไปเลย โดยความเร็ว, ความคล่องตัวและการไปกับบอลที่ทำได้อย่างเยี่ยมยอด ชนิดที่กองหลัง คริสตัล พาเลซ ถึงกับปวดหัวเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมสามารถปั้นเกมรุกได้อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าเขาน่าจะกลายเป็นอนาคตของทีมในยุค คล็อปป์ ได้เหมือนกัน

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - 6.5/10

          เพลย์เมกเกอร์บราซิเลี่ยนผู้ที่เป็นฮีโร่ในเกมที่เอาชนะ เชลซี 3-1 ยังคงเล่นได้ดีตามบทบาทที่ได้รับและปั้นเกมรุกให้กับทีมได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเกมนี้จะไม่ค่อยมีจังหวะจบเหน่งๆ ให้เขาได้ลองสับไก แต่การสร้างสรรค์เกมยังคงเป็นจุดแข็งแบบฉบับแซมบ้าเหมือนเดิม

คริสติย็อง เบนเตเก้ - 4/10

LIVERPOOL, ENGLAND - Sunday, November 8, 2015: Liverpool's Christian Benteke in action against Crystal Palace during the Premier League match at Anfield. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          หนึ่งในผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตรฐานสุดๆ แบบไม่อยากจะเชื่อ เพราะไม่ว่าจะเป็นโอกาสขึ้นโขกเหน่งๆ หรือการจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคม ทำให้เขารวมไปถึงทีมใช้โอกาสเปลืองแบบทิ้งๆ ขว้างๆ จึงไม่แปลกใจที่เขาจะถูกแฟนบอลฮาร์ดคอร์ต่อว่าอย่างหนักหน่วงในโลกโซเชี่ยล

ตัวสำรอง

เดยัน ลอฟเรน (ลงสนามมาแทน มามาดู ซาโก้ ในนาทีที่ 40) - 6/10

          นับตั้งแต่ที่เขาลงสนามไปเล่นในช่วงท้ายครึ่งแรก ก็ทำให้แฟนๆ หายใจไม่ทั่วท้อง แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เขาเริ่มปรับตัวและเล่นเกมรับได้ดีไม่แพ้คนอื่นๆ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ค่อยมีส่วนช่วยในการป้องกันประตูเท่าไหร่ หากเทียบกับโอกาสจบสกอร์ที่ขึ้นไปลุ้นจากจังหวะเซ็ตพีซมากกว่า

โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ (ลงสนามมาแทน เอ็มเร่ ชาน ในนาทีที่ 65) - 6/10

          สำหรับตัวรุกชาวบราซิลรายนี้ ไม่ค่อยมีผลงานโดดเด่นมากนักในช่วงเวลาที่ได้ลงสนาม แต่ก็ไม่มีจังหวะผิดพลาดอะไรเช่นเดียวกัน เรียกว่า "ความเลวไม่มี ความดีไม่ปรากฏ" ก็คงได้

ดิว็อค โอริกี้ (ลงสนามมาแทน จอร์ดอน ไอบ์ ในนาทีที่ 87) - ไม่มีคะแนน

          แทบไม่ได้สัมผัสบอล รวมไปถึงการมีส่วนร่วมกับเกม เพราะเวลาที่น้อยเกินไปนั่นเอง

ผู้จัดการทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์ - 6.5/10

LIVERPOOL, ENGLAND - Sunday, November 8, 2015: Liverpool's manager Jürgen Klopp applause the supporters after his side's 2-1 home defeat to Crystal Palace during the Premier League match at Anfield. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

          โดยรวมทั้งรูปเกมและสถิติต่างๆ บ่งชี้ว่าลูกทีมของเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นไปตามระบบที่วางไว้ แต่ด้วยฟอร์มส่วนตัวของนักเตะที่ทำให้ทีมพลาดแม้แต่จะเก็บแต้มนั่น จึงไม่อาจโทษเป็นความผิดของตัวกุนซือได้โดยตรง สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงและน่าจะเป็นชุดที่ดีที่สุดในเวลานี้แล้วด้วย ส่วนเรื่องการแก้เกมก็แก้ได้ตรงจุด โดยถอดนักเตะและส่งลงไปเล่นได้ตามตำแหน่งแบบไม่ผิดแปลกไป อย่างที่บอกว่านี่เป็นความผิดพลาดส่วนตัวของลูกทีมมากกว่าระบบที่วางไว้ น่าเสียดายที่ไม่มีแม้กระทั่งแต้มเดียวจากเกมนี้

ADS