หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / เกเก้นเพรสซิ่งออกฤทธิ์!! ผลสอบแข้ง "หงส์" จากเกมบุกเผารถบัส เชลซี

เกเก้นเพรสซิ่งออกฤทธิ์!! ผลสอบแข้ง "หงส์" จากเกมบุกเผารถบัส เชลซี

เกเก้นเพรสซิ่งออกฤทธิ์!! ผลสอบแข้ง หงส์ จากเกมบุกเผารถบัส เชลซี

เกเก้นเพรสซิ่งออกฤทธิ์!! ผลสอบแข้ง "หงส์" จากเกมบุกเผารถบัส เชลซี

 

ซิมง มิโญเลต์ 6.5/10

Ramires scores the first goal for Chelsea

     อาจจะพลาดไปบ้างในจังหวะที่โดน รามิเรส บินมาโฉบโหม่งขึ้นนำ ซึ่งเริ่มต้นจากการประกบที่ผิดพลาดของ โมเรโน่ แต่หลังจากนั้น มิโญเลต์ ก็โชว์ฟอร์มที่ไว้ใจได้ในการเซฟประตู ช็อตที่ดีที่สุดของเขาหนีไม่พ้นจังหวะหงายตัวบินสุดเหยียดปัดลูกส่องไกลของ ออสการ์ ที่ทำให้ทีมไม่หลุดไปจากเกมนี้

นาธาเนี่ยล ไคลน์ 7.5/10

Nathaniel Clyne vies with Diego Costa

     ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ดูจะต้องดวลชิงไหวชิงพริบกันอย่างหนักกับ เชลซี ก็มี ไคลน์ คนนี้ที่ร้อนแรงเป็นพิเศษ แบ็กขวาขาลุยคนนี้ยังคงชอบเติมเกมด้วยความเร็วอยู่เป็นประจำ แมตช์นี้เขาจัดอยู่ในข่ายแมนออฟเดอะแมตช์ก็ยังได้เลยด้วยซ้ำไป

มาร์ติน สเคอร์เทล 8/10

Diego Costa kicks out at Martin Skrtel but its not seen by the referee

     สเคอร์เทล ดวลกับ ดีเอโก้ คอสต้า ได้ดี เขาคอยประกบถูกที่ถูกเวลาอย่างไม่ให้คลาดสายตา และเผชิญกับการใช้ร่างกายปะทะกันตลอดทั้งเกม กองหลังวัย 30 ปี ยังรับมือคู่แข่งด้วยความนิ่งและมีอิทธิพลอย่างสูงในการครองบอล ด้วยการพยายามต่อบอลไปข้างหน้า เพื่อสร้างความอันตราย

มามาดู ซาโก้ 8/10

ไม่ต่างจาก สเคอร์เทล เกมนี้ ซาโก้ โชว์ฟอร์มสุดแข็งแกร่งในบทบาทกองหลังตัวกลาง เอาชนะลูกกลางอากาศเมื่อต้องเจอแนวรุก เชลซี ได้มีประสิทธิภพ และยังคอยประกบ วิลเลี่ยน ได้อยู่หมัด การมี สเคอร์เทล ทำให้เขากล้าเติมเกมรุกเป็นระยะ ด้วยการผ่านบอลยาวให้ เบนเตเก้ จนนำมาสู่ประตู 2-1 ของ คูตินโญ่

อัลแบร์โต้ โมเรโน่ 6.5/10

Ramires and Alberto Moreno battle for the ball

     เริ่มต้นด้วยความสะเพร่าปล่อยให้ รามิเรส โหม่งขึ้นนำ จากนั้นมาก็เหมือนเขาจะตื่นจากภวังค์ด้วยการสู้ยิบตาในจังหวะเล่นเกมรับ เขายิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ บุกสูงลุยในหลายจังหวะจากรับเป็นรุกด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งทางพื้นที่กราบซ้าย และได้โอกาสยิงจากการสวนกลับ แต่ก็ไปติดเซฟของ เบโกวิช อย่างน่าเสียดาย

เจมส์ มิลเนอร์ 5/10

Jon Obi Mikel is fouled by James Milner

     แย่ที่สุดของวันนี้คงไม่มีใครพ้น มิลเนอร์ ทั้งๆ ที่คุณสมบัติของเขาเหมาะสมกับระบบของ คล็อปป์ ด้วยซ้ำ แต่วันนี้พ่ายแพ้ในการเข้าปะทะ และทำให้เกมรุกเสียหลายจังหวะ เนื่องจากจับบอลไม่ค่อยดี พอเปลี่ยนตัวออก เกมของทีมก็ดีขึ้นมาทันที นี่ยังคงเป็นเรื่องที่ คล็อปป์ ต้องเก็บไปคิดเป็นการบ้าน

ลูคัส เลว่า 7/10

     ในครึ่งแรก ลูคัส ทำให้ทีมต้องเสียวเป็นระยะๆ จากการฟาล์วเซ่อๆ ซ่าๆ จากภาพรวมวันนี้เขาเล่นได้ดีในแง่ของการตัดเกม แม้จะมีจังหวะที่เล่นหนักจนเกือบโดนไล่ออกตอนปะทะกับ จอห์น โอบี มิเคล แต่วันนี้ ลูคัส เอาอยู่สำหรับการเบรกเกมเคาน์เตอร์แอ็ทแท็คของ เชลซี ดูทรงแล้วจะมีอนาคตยาวๆ กับผู้จัดการใหม่อย่าง คล็อปป์ แน่ๆ

เอ็มเร่ ชาน 6.5/10

Willian and Emre Can battle for the ball

     กองกลางร่างยักษ์รายนี้ ขยันขันแข็งลากตะลุยจากหลังมาหน้า พยายามมีส่วนในเกมรุกเต็มตัว แต่บ่อยครั้ง ชาน ก็หลุดตำแหน่งบ่อยมาก หรือไม่ก็ครองบอลไม่อยู่ จนเสียบอล แต่ด้วยวัยเพียง 21 ปี เราอาจพอเข้าใจได้ว่ายังขาดประสบการณ์ แต่การขาดความฉลาดในทางแท็คติกแบบนี้อาจส่งผลเสียได้ หากต้องเจอกับทีมที่แกร่งกว่านี้

อดัม ลัลลาน่า 7/10

Adam Lallana and John Terry compete for the ball

     ลัลลาน่า ออกสตาร์ทในครึ่งแรกได้ร้อนแรงสุดๆ ให้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสยิงเพียบ แต่ไม่ค่อยเข้าเป้า แต่ก็ยังหาตำแหน่งขึ้นไปสอดเล่นในเขตโทษของ เชลซี ได้เป็นระยะ เพียงแค่ขาดความคมในการจบสกอร์ ภาพรวมเขายังมีประโยชน์สำหรับการทำงานของ คล็อปป์ แต่ถ้ามองคู่แข่งอย่าง ฟีร์เมียโน่ ที่กำลังแรงขึ้นมา ดูท่าเขาอาจะเป็นได้แค่สำรอง

โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ 7/10

Roberto Firmino competes with John Obi Mikel

     วันนี้รับบทกองหน้าจำเป็นในระบบพิเศษ 4-3-3 เขาทำได้ดีมากในการเล่นกับพื้นที่ว่าง และกับดักล่ำหน้า มีสัญญานในทางบวกกับการปั้นเกม และสร้างโอกาสเคลื่อนที่อย่างฉลาดเพื่อหาช่องว่างให้ตัวเอง กระทั่งเมื่อ เบนเตเก้ ลงมา เขาก็ถอยมาเล่นหน้าต่ำ และทำได้น่าประทับใจ เชื่อว่านั่นจะเป็นตำแหน่งถาวรของเขาในทีมชุดนี้

ฟิิลิปเป้ คูตินโญ่ 8/10 (แมนออฟเดอะแมตช์)

Philippe Coutinho scores a late equalising goal


     เกมนี้เกมเดียวแฟนๆ บอก ยอมให้อภัยในความห่วยมาหลายนัดของ คูตินโญ่ ได้เลย หลังจากฟอร์มตกมาพักใหญ่ เกมนี้เขาเริ่มต้นอย่างเชื่องช้า แต่แล้ว คูตินโญ่ ก็เร่งฟอร์มขึ้นมาด้วย 2 ประตูสุดคมและเปี่ยมด้วยความเยือกเย็น สกอร์ที่เกิดขึ้นในวันนี้น่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้มากโขเลย สำหรับพ่อมดน้อยผู้เปี่ยมด้วยความฉลาด, ความสร้างสรรค์ และ จินตนาการ

สำรอง

คริสติย็อง เบนเตเก้ (แทน มิลเนอร์ นาที 64) 7/10

     สงสัยจะโดน คล็อปป์ จวกมาจากการที่เขาไม่ค่อยจะขยันไล่บอลเท่าไรในเกมที่ผ่านมา แต่ 1 ประตูในคืนนี้พร้อมอีก 1 แอสซิสต์ จากการอยู่ในสนามไม่ถึง 30 นาที น่าจะทำให้ คล็อปป์ ต้องจดจำเหตุการณ์นี้ เก็บไปคิดในการวางแผนครั้งต่อไป

จอร์ดอน ไอบ์ (แทน ฟีร์เมียโน่ นาที 76) 6/10

Jurgen Klopp talks to Jordon Ibe before bringing him on

     ถูกส่งลงมาแทน ฟีร์เมียโน่ ที่อ่อนล้า และลงมาปั๊บก็ป่วน เชลซี ได้เลย ด้วยการเล่นเกมสวนกลับใส่เจ้าบ้านด้วยความเร็วของเขา เชื่อว่าเกมต่อไป ไอบ์ น่าจะมีแววได้เป็นตัวจริงอีกครั้ง

เดยัน ลอฟเรน (แทน ลัลลาน่า นาที 90) ไม่มีคะแนน

     ลงมาเพื่อปิดเกมรับให้ตายสนิท ประเดิมชัยชนะนัดแรกของ คล็อปป์ เหนือ เชลซี ทีมรถบัสยางแตกในคืนนี้

เจอร์เก้น คล็อปป์ 8/10

Jurgen Klopp reacts as Liverpool equalise just before half time

     วันนี้เราได้เห็นแท็คติกการเปลี่ยนตัวที่ไม่เคยเกิดขึ้นในยุค แบรนแดน ร็อดเจอร์ส นั่นคือการกล้าที่จะออกกัปตันทีมอย่าง มิลเนอร์ ออก แล้วส่งกองหน้าอย่าง เบนเตเก้ ลงมาแทน แสดงให้เห็นการจัดการที่ปราศจากอคติ วัดจากฟอร์มในสนามล้วนๆ ไม่มีใครอิทธิพลเหนือเขา และสกอร์ที่ออกมาบอกเป็นคำตอบว่าเขาทำถูกต้องแล้ว เกมนี้ คล็อปป์ วัย 48 ปี ยังแสดงถึงบารมีในการคุมทีมในระดับโลก ทั้งแรงกระตุ้นและกลยุทธ์ที่เฉียบแหลมอีกด้วย

ADS