เกิดอะไรขึ้นกับอนาคต ลาซาร์ มาร์โควิช ใน แอนฟิลด์ ??

เกิดอะไรขึ้นกับอนาคต ลาซาร์ มาร์โควิช ใน แอนฟิลด์ ??

     กลายเป็นความผิดหวังครั้งใหญ่ประการหนึ่งของ ลิเวอร์พูล สำหรับ ลาซาร์ มาร์โควิช ในการเล่นให้ทีมซีซั่นแรก ด้วยเหตุผลที่มากมายหลายประการ เพราะอะไรวันเดอร์คิดเซอร์เบียคนนี้ ถึงหาฟอร์มเก่งไม่เจอเสียที

     อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ สยามลิเวอร์พูล พบเจอมาว่า เขาเป็นหนึ่งในลิสต์ต้นๆ ที่จะถูกขายทิ้งในหน้าร้อนนี้ ทั้งที่อยู่กับทีมได้แค่ 10 เดือนกว่าๆ นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เบนฟิก้า ในราคา 20 ล้านปอนด์

     หนังสือพิมพ์ เดอะ ไทม์ ตั้งข้อสังเกตว่าดาวเตะวัย 21 ปี จะมีชะตากรรมเหมือน เกล็น จอห์นสัน, โฆเซ่ เอ็นริเก้ และ ฟาบิโอ บอรินี่ ที่ต้องหมดอนาคตเตรียมออกจากรั้ว แอนฟิลด์ ในไม่ช้านี้ ซึ่งข่าวนี้สร้างความช๊อกให้แฟนๆ ที่ตามเชียร์ มาร์โควิช อย่างมาก

     หลายคนบอกมันเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเลย กับการให้โอกาสเพียงน้อยนิดมาทั้งฤดูกาล เพราะเจ้า ลาซาร์ เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และศักยภาพที่จะเป็นปีกชั้นยอดได้ ต่างไปจากนักเตะคนอื่นๆ ที่ไม่มีประโยชน์และเลยวัยที่จะพัฒนาได้อีกต่อไป

     และจากนี้ไปคือเหตุผลที่ชัดแจ้งว่าทำไม มาร์โควิช ถึงไม่ประสบความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล เสียที

การต้องเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด

     สมัยที่เขาฮอตขึ้นมาใหม่ๆ ใครๆ ก็รู้ว่าเขาคือปีกโดยธรรมชาติ ที่ชอบปักหลักเล่นกราบซ้ายในระบบกองหน้าสามตัว และผลงานที่ร้อนแรงสมัยเล่นในโปรตุเกสก็ทำให้เขาถูกจับตามองว่าจะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงคนหนึ่งของยุโรป

     อัฟราม แกรนท์ อดีตกุนซือ เชลซี เคยพูดถึง มาร์โควิช ว่า "เขามีองค์ประกอบแบบ โรนัลโด้ และ เมสซี่ และมีพรสวรรค์สูงที่สุดสำหรับเด็กอายุ 19 เท่าที่ผมเคยเจอมา" ส่วน เนมานย่า มาติช เพื่อนเก่าที่ เบนฟิก้า ก็เอ่ยทำนองเดียวกัน "เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นปีกที่ดีที่สุดคนหนึ่งของยุโรป"

     แต่ความเป็นจริง ตลอดซีซั่น 2014-15 เขาไม่เคยได้โอกาสได้เล่นตำแหน่งถนัดของเขาเลยสักครั้งเดียว อาจจะมีแค่ครั้งเดียวที่ได้เล่นคือเกมพบ แมน ซิตี้ เกมนั้นเขาฉายแววทั้งความมั่นใจ, ความเร็ว, การลากเลื้อย และความขยันที่มีสัญญานที่ดีอย่างมาก

     กระทั่งเกมที่แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-0 คาบ้าน เมื่อกันยายน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือสมองเพชรก็จับเขาไปเล่นปีกขวา ผลลัพธ์เป็นยังไงก็ย้อนกลับไปอ่านสกอร์กันอีกทีเอาเอง     

     เกมดังกล่าว มาร์โควิช ล้มเหลวอย่างมากในการเล่นปีกขวา แถมเขายังปรับตัวไม่ได้เลยกับบอลอังกฤษที่เล่นกันเร็วและแรง พอมายืนตำแหน่งที่ไม่คุ้นเคย ก็เลยยิ่งออกทะเลไปกันใหญ่

     เลวร้ายไปกว่านั้นคือใบแดงในนัดพบ เอฟซี บาเซิ่ล บน แชมเปี้ยนส์ ลีก ยิ่งทำให้เขาต้องพลาดลงสนามต่อเนื่อง ทำให้ยากจะปรับตัวกับเกมของทีมได้

     ช่วงต่อมาที่ บีร็อด ใช้แผน 3-4-2-1 เจ้าตัวก็โดนย้ายมาเป็นวิงแบ็ก??? ทางซ้ายมั่งขวามั่ง สลับไปสลับมา

     ฟอร์มที่น่าจดจำที่สุดของ LM 50 คงไม่พ้นเกมพบ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อมกราคม ที่โชว์ยิงประตูเปิดซิงลูกแรกในสีเสื้อหงส์แดง พร้อมฟอร์มอันตรายที่โดดเด่นเกินใครในเกมนั้น

     จริงอยู่ว่าสูตร 3-4-2-1 มีช่วงที่ใช้ได้ผลจนทีมกับมาเล่นดีพักใหญ่ แต่กับฟอร์มของ ลาซาร์ กลับไม่ได้ดีไปด้วยเพราะแผนดังกล่าว

กลายเป็นส่วนเกินที่ทีมไม่ต้องการ

     ในช่วง 11 นัดสุดท้ายของซีซั่นนี้ ดาวเตะผู้ติดทีมชาติไปแล้ว 18 นัด มาร์โควิช ได้เล่นแค่ 70 นาที ในนัดพบ ฮัลล์ ซิตี้, คิวพีอาร์ และอีกแค่ 45 นาทีในครึ่งหลังที่เจอ อาร์เซน่อล

     การให้เวลานักเตะเล่นน้อยนิดแบบนี้ ย่อมส่งผลต่อการปรับตัวและความมั่นใจในการเล่น อันมาจากความคิดของทัศนคติจากผู้จัดการทีมที่ไม่ได้ไว้วางใจในตัว มาร์โควิช สักเท่าไร

     โอกาสในการเล่นตำแหน่งถนัดในกราบซ้าย ระบบกองหน้า 3 ตัว สมมติว่ามี มาร์โควิช - สเตอร์ลิ่ง - คูตินโญ่ น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด แต่กระนั้นมันก็ไม่เคยเกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียวในฤดูกาลนี้

     ดังนั้น ร็อดเจอร์ส ต้องหันกลับมาทบทวนว่าเขาควรให้โอกาส มาร์โควิช ได้พิสูจน์ตัวเองในพื้นที่ทำมาหากินได้แล้ว เหมือนที่ครั้งหนึ่งเคยส่งทีมชุดสองดวลกับ เรอัล มาดริด ยกเซตมาแล้ว

อนาคตต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร?

     หากว่า ลิเวอร์พูล ตัดสินใจขาย มาร์โควิช ออกไปจากจริงๆ ก็คงเป็นความคิดที่น่าโง่สุดๆ เพราะสถานการณ์ของ บีร็อด ก็ยังโอเคกับทีมจากการที่บอร์ดบริหารยังดูจะให้โอกาสอีกปีแก่เขา แล้วทำไมเขาจะให้โอกาส ดาวรุ่งวัย 21 ปีมากกว่านี้ อดทนกับฟอร์มของ มาร์โควิช ให้นานกว่านี้ ทำไมจะทำไม่ได้?

     จริงอยู่ว่าผลงาน 2 ประตูจากการเล่นในลีก 19 นัด (เล่นทุกรายการ 34 นัด) มันดูย่ำแย่กับเงิน 20 ล้านปอนด์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะตัดสินได้ทุกอย่างที่ มาร์โควิช เป็น ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา

     นิยามที่ตรงที่สุดของ มาร์โควิช คงหนีไม่พ้นคำว่า "เขาคือเหยื่อจากการที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่ง" แปลเป็นไทยได้ว่า ฟอร์มตกเพราะดันยอมให้ผู้จัดการจับเล่นตำแหน่งมั่วไปเรื่อย นั่นเอง

     ประวัติการเล่นของเขาไม่เคยปรากฎให้เห็นว่าจะเล่นเกมรับได้เลย สมัยอยู่โปรตุเกส ทั้งร่างกายที่บอกบาง และเกมรับที่ไม่ดีเพราะไม่ใช่งานถนัด แล้วแบบนี้ มาร์โควิช จะเล่นดีได้ยังไง เพราะเล่นเป็นแต่เกมรุก ลองคิดเล่นๆ ว่ามันจะคุ้มไหมถ้าให้ โรนัลโด้ ไปเล่นวิงแบ็กกับ มาดริด มีแต่คนบ้าเท่านั้นละครับที่จะคิดได้

     บางทีหาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ย้ายทีมขึ้นมาจริงๆ ในซัมเมอร์นี้ ก็อาจจะถึงเวลาของ มาร์โควิช ในการได้โอกาสเล่นเป็นตัวหลักให้ ลิเวอร์พูล ก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับใจของคนๆ นี้คนเดียว - เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ชื่อที่ทุกคนคิดถึงมากในชั่วโมงนี้