ความคิดเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

     ฟอร์มยังคงร้อนแรงต่อเนื่องสำหรับ ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล เมื่อสามารถเปิดบ้านเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ไปได้แบบสบายๆเท้า 2-0 จากประตูของกัปตันทีมคนต่อไปอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ''เต้ยโศก'' ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เก็บชัยเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันเข้าไปแล้วสำหรับในลีก แถมกลายเป็นเกมที่ 11 ติดต่อกันเข้าไปแล้วที่ลูกทีมของ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังไม่แพ้ใครนับตั้งแต่เสียท่าในศึกแดงเดือดเมื่อปีที่ผ่านมา

     รูปเกมในวันนี้ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นไปตามคาดเมื่อกุนซือ ''ตาหวาน'' โชว์ความดุตรงข้ามกับหน้าตาสั่งให้ลูกทีมเปิดเกมรุกบุกเข้าใส่ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มเกมดังขึ้นเลยทีเดียว รูปเกมตอนแรกดูไหลลื่นกันอย่างสุดๆจนผ่านไปเรื่อยๆดูเหมือนเริ่มตันไปเหมือนกันสำหรับเกมรุกแต่ทว่าก็มาได้ ''เฮนโด้'' ตะบันด้วยขวาอย่างเมามันส์ให้ทีมออกนำไปก่อน ทำให้นี่กลายเป็นประตูจากการยิงไกลลูกที่ 3 ติดต่อกันเข้าไปแล้วสำหรับ พลพรรค ''หงส์แดง'' พอได้ประตูขึ้นนำทุกอย่างก็ดูเหมือนโล่งขึ้น ลิเวอร์พูล กลับมาครองเกมได้ดีอีกครั้งแต่ทว่าวันนี้ ''เต้ยโศก'' ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ เหมือนจะยังเรียกความมั่นใจกลับมาไม่หมดเนื่องจากมีโอกาสจบสกอร์หลายจังหวะเหลือเกินในครึ่งแรกแต่ก็ไม่สามารถทำได้

     จนเข้าสู่ครึ่งหลังเกมเล่นไปได้เพียง 5-6 นาทีเท่านั้น ลิเวอร์พูล ก็ยิ่งเล่นง่ายขึ้นไปอีกเมื่อบวกลูก 2 ได้สำเร็จจากการแอสซิสต์ของ เฮนเดอร์สัน ให้ สเตอร์ริดจ์ ได้โหม่งแบบเผาขน เรียกความมั่นใจของเจ้าตัวกลับมาอีกนิดนึง เกมนี้ต้องยกให้กัปตันทีมคนใหม่ของเราเป็นพระเอกไปเลยเพราะโชว์ทั้งลูกยิงไกลแบบสะใจกองเชียร์และการแอสซิสต์ที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์ ซึ่งมันก็ทำให้เราพอชื่นใจได้บ้างว่าอย่างน้อยฤดูกาลหน้าที่ไม่มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด เราก็มีตัวแทนอย่าง ''เฮนโด้'' ขึ้นมาพอทดแทนได้บ้างแล้ว

     ฟอร์มแบบนี้แหละครับที่พวกเราต้องการมาตั้งแต่ตอนเริ่มฤดูกาลทว่า ร็อดเจอร์ส ดันมาจับจุดได้ช้าไปหน่อยทำให้เราหมดสิทธิ์่ที่จะแย่งลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ แต่ก็ยังดีที่กลับมาไวพอที่จะลุ้นโควต้าไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้อยู่ แผน 3-4-3 คงจะติดตราตรึงใจกับ ''เดอะค็อป'' ไปอีกนานเพราะนี่น่าจะเป็นแท็คติคใหม่สำหรับยอดทีมแห่ง เมอร์ซี่ไซด์ เลยทีเดียวที่สามารถพลิกทีมให้กลับมาจากความย่ำแย่จนมาได้ดีขนาดนี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในฤดูกาลนี้ผมว่าเราควรมองไปที่ถ้วย เอฟเอคัพ เพื่อเป็นการสั่งลาลูกพี่คนเก่าที่ซึ่งเป็นที่รักและเคารพของพวกเขาทุกคนอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด มันคงจะเป็นการอำลาที่สุดแสนจะคลาสสิคน่าดู

     การลุ้นอันดับ 4 ในลีกก็ยังคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไปและจุดสำคัญของพวกเราก็จะอยู่ในช่วงปลายเดือนถึงต้นเดือนหน้าที่มีคิวลงฝาดแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล เพื่อตัดสินพื้นที่การไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า ซึ่งถ้าหากเรายังรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ได้ตลอดไปจนจบฤดูกาลผมว่าเผลอๆเรามีลุ้นถึงขั้นจบด้วยการเป็นรองแชมป์ซะด้วยซ้ำ You'll Never Walk Alone