ความเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

      ก่อนเกมพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูงของลีก ลิเวอร์พูล ของพวกเราก็ยังต้องขาด มามาดู ซาโก้ ที่ยังไม่หายเจ็บ ต้องใช้ เดยัน ลอฟเรน ต่อไปอีกนัด ให้กองกลางเป็น โจ อัลเลน จับคู่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดยให้หน้าเป้าเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยืนแบบ False Nine นั่นเอง

     ฝั่งทีมเยือนตราเรือใบสีฟ้า จัดหนักทุกตำแหน่ง คีย์แมนอย่าง ดาบิด ซิลบา, ยาย่า ตูเร่ และ ซามีร์ นาสรี่ มาครบ พร้อมกองหน้าสุดอันตราย เอดิน เชโก้ ประสานงาน กุน อเกวโร่

     เริ่มเกมมาก็ร้อนแรงสมความคาดหมาย ทั้งสองทีมเปิดแลกกันชนิดว่าถ้าเป็นรถแข่งคงเหยียบกันเกิน 200 เพราะจังหวะไล่บอลกันเร็วมาก แมน ซิตี้ พยายามเล่นตั้งเกมเพื่อคุมจังหวะ แต่ ลิเวอร์พูล เรามาด้วยแผนเพรสซิ่งแบบไล่บี้ทุกคน ทุกจังหวะ ภาพรวมที่ออกมาจึงกลายเป็นว่าทั้งสองฝ่ายตั้งครองบอลกันไม่ได้เลย เพราะต่างบีบเร็วทั้งคู่ กลายเป็นว่าต้องมาหวังเกมโต้กลับ สลับกันไปๆ มาๆ โอกาสยิงจึงมีไม่ค่อยมาก เพราะเซตเกมไม่ได้เท่าไร

     นอกจากนี้ครึ่งแรกยังเหมือนเป็นการดวลเทคนิคของกองกลางทั้งสองฝ่าย ที่ชิงไหวชิงพริบโชว์ลีลาหลอกล่อและความเร็วได้สนุก ซึ่งเรามาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 11 จาก เฮนเดอร์สัน ที่เกิดจากการหลุดตำแหน่งของ ก็องปานี ปล่อยให้กัปตันเราได้ทดลองง้างไก แล้วบอลก็ดันเป็นใจพุ่งเข้าสามเหลี่ยม แบบพอดี เป๊ะๆ สุดเอื้อมของ ฮาร์ท ทั้งๆ ที่ระยะร่วม 20 เมตรเลยทีเดียว 

     ส่วนลูกตีเสมอ 1-1 ของ ซิตี้ ก็มาจากความเข้าใจกันของ กุน และ เชโก้ ที่ให้ กุน ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงจี้เข้าหา จนกองหลังหงส์เปิดช่องให้ได้ถวายพาน ประกอบกับความคมของ เชโก้ เลยยิงด้วยซ้ายเข้าไปมันอย่างงั้น

     จากนั้นรูปเกมก็อย่างที่เล่าไป ต่างฝ่ายต่างสวนกลับโต้กันไปมา สลับกับการตัดฟาล์วในแดนกลาง ชนิดว่าเป็นการห้ำหั่นของ อัลเลน กับ แฟร์นานดินโญ่ ก็ว่าได้ พร้อมด้วยจังหวะทิ้งบอมบ์ไปให้กองหน้าทั้งสองทีมสปีดไปหาโอกาสเอาเอง

     พอมาต้นครึ่งหลัง มีการแก้เกมคล้ายๆ กัน คือลดสปีดของเกมลง และจุดเปลี่ยนมาอยู่ใน 20 นาทีสุดท้าย สงสัย ซิตี้ เริ่มท้อแม้ จ่ายบอลแบบไหน ก็โดนกลางและหลังของหงส์แดงเก็บกินได้หมด ไปๆ มาๆ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเซตบอลและครองเกมได้มากกว่า และจังหวะมหัศจรรย์ก็มาถึง เมื่อ คูตินโญ่ ครองบอลหน้าเขตโทษทางซ้าย ซิตี้ ก่อนคลึงบอลแล้วปั่นมันเข้าเสาสองไปแบบช๊อกทั้งสนาม เป็น 2-1 จากนั้นเกือบได้เพิ่มจาก สเตอร์ริดจ์ แต่ก็ไม่เฉียบคมมากพอ จบเกมเราเลยเก็บ 3 แต้ม เพิ่มเป็น 48 คะแนนเท่า อาร์เซน่อล เป็นทีเรียบร้อย

     จุดที่ต้องชมในเกมนี้คือทุกคนในทีมเล่นดีมาก หากมองในรายละเอียด คีย์แมนคือ แผงหลังสามคน โดยเฉพาะ สเคอร์เทล ที่บงการเกมรับได้ดีมาก ประสานงานกับ กองกลางได้ลงตัว ผนวกกับ ลัลลาน่า และ มาร์โควิช เล่นทางกราบในแบบเก็บบอลไว้กับตัว ทำให้ครองบอลได้มากกว่า แล้วคอยให้บอลพวกจี๊ดๆ อย่าง สเตอร์ลิ่ง หรือ คูตินโญ่ ไปเล่นต่อเอาเอง

     เห็นทีนาทีเราอาจจะไม่ใช่แค่ลุ้นที่ 4 แล้วละครับ เผลออาจไปถึงที่ 3 ได้เลย เพราะ อาร์เซน่อล ช่วงนี้กองหลังกำลังเป๋ได้ที่ ยังไงคืนนี้คอยเอาใจแช่ง ปืนใหญ่ ให้แพ้ เอฟเวอร์ตัน ด้วยละกันครับ