ความเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

     ก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้นกับ สเปอร์ส ลิเวอร์พูล ก็ต้องประสบปัญหาในแดนกลาง อย่างที่ทราบกันว่า ลูคัส เจ็บโคนขาหนีบมาจากเกม เอฟเวอร์ตัน ทำให้ต้องใช้ เจอร์ราร์ด ลงมาคุมเกมแดนกลางแทน พร้อมทีมงานชุดใหญ่ ที่มี คูตินโญ่, สเตอร์ริดจ์, มาร์โควิช และขนาบแบ็กซ้ายขวา ด้วย โมเรโน่ และ ไอบ์ ส่วน สเตอร์ลิ่ง ไม่ผ่านฟิตเช่นกัน

     ขณะที่ฝั่งทีมตราไก่ก็จัดเต็มทั้ง เคน และ อีริคเซ่น และทีมชุดเก่งของพวกเขา ซึ่งกำลังมั่นใจอย่างมาก หลังดับซ่า อาร์เซน่อล มาได้ในนัดที่แล้ว โดยเฉพาะ เคน ที่ฮอตสุดๆ ทำไปแล้วถึง 22 ประตูในฤดูกาลนี้ จนสื่อให้ฉายาว่า นิว อลัน เชียร์เรอร์

     ในนัดนี้ช่วง 20 นาทีแรก หงส์แดงคุมเกมได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ด้วยวิธีการดันสูงเพรสซิ่งเกมคู่แข่ง โดยห้อย สเตอร์ริดจ์ ไว้ข้างหน้า ทำให้กองหลัง สเปอร์ส พะวงใจอย่างมาก และเจ้าเต้ยโศกก็ทำได้ดีมากด้วย เพราะยืนถูกที่ถูกเวลา ใช้ความคล่องตัวและความเร็วคอยกดดันคู่แข่ง จนจ่ายบอลเสียให้เจ้าตัวได้ลากเลื้อย ส้มหล่นหลายจังหวะ

     อีกคนหนึ่งที่ยอดเยี่ยม คือ ไอบ์ ที่เล่นแบ็กขวา มีความตั้งใจ กล้าเล่นกล้าลุย ไม่ประหม่า จุดเด่นคือการเลี้ยงลุยจนสุดเส้น แล้วคอยตบเข้าเขตโทษให้เพื่อนจบสกอร์ แต่กระนั้นหลายจังหวะ ก็ดูจะฝืนไปในลักษณะเดิม จนคู่แข่งจับทางได้ แต่ก็มีทรงอนาคตที่ดีมากๆ สำหรับเด็กอายุ 19 ปี

     ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำ จากการทำบอลเสียเองของ สเปอร์ส ในจังหวะที่ทีมตราไก่บุกเพลินๆ แล้วจ่ายคืนหลังพลาด มาโดน สเตอร์ริดจ์ กดดัน จนลนลานสกัด บอลเลยลอยมาหา มาร์โควิช ที่ช่วงนี้ปรับตัวได้แล้ว เลี้ยงจี้ไปซัดแบบเล่นทางดีดๆ โยริส พยายามปัดแต่ไม่พ้น เลยนำง่ายๆ 1-0

     ช่วงนั้นนึกว่าเกมจะใสแจ๋วซะแล้ว กลับกลายเป็นว่า เจ้าหนู เฮอร์ริเคน มันทำพิษใส่เรา จากจังหวะบุกของทีมไก่ เคาะบอลหน้าเขตโทษเรา และเป็น ลาเมล่า ที่ถวานพานให้ เคน พลิกหนี ซาโก้ ที่เข้าบอลจั่วลม ก่อนสับไกเล็งลอดดาก มิโญเลต์ เข้าไป เป็น 1-1 อันนี้ไม่รู้จะโทษใครดี เพราะเป็นสัญชาตญานของ เคน ล้วนๆ

     พอเกมมาเข้าครึ่งหลัง ดู 2 ทีมระวังตัวกันมากขึ้น แต่ก็เล่นหนักกว่าเดิมทั้งสอง ชนิดเหลืองปลิวว่อนกระจาย ซึ่งกองหลัง สเปอร์ส ยังมีปัญหากับ สเตอร์ริดจ์ ที่หาพื้นที่เก่ง ซึ่งก็ไม่แคล้ว ริดจ์ เรียกจุดโทษได้จากการที่ โรส ไปอัดร่วงในเขตโทษ พี่เจิดของเราก็หยิบบอลมาตั้ง พร้อมยิงเล่นทางเสาสองใสๆ

     แต่เหตุการณ์ก็มาพลิกในช่วงต่อมาไม่นาน จากจังหวะเซตพีท อิริคเซ่น ได้ลองซัดฟริคิก และยิงได้ดีจะเข้าอยู่แล้ว มิโญเลต์ ยังไม่พลาด แต่ดวงไก่ยังมี เคน เก็บตก จ่ายยัดให้ เดมเบเล่ ใช้อกพักเข้าไปโล่งๆ อันนี้ก็เกิดจากการที่กองหลังของเราเข้าสกัดช้าเกินไป ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมากๆ

     ร็อดเจอร์ส เห็นแบบนี้อยู่เฉยไม่ได้ เลยเปลี่ยน เจอร์ราร์ด, สเตอร์ริดจ์ และ มาร์โควิช ออก พร้อมปล่อยไพ่ 3 ใบรวดด้วย ลอฟเรน, ลัลลาน่า และ บาโลเตลลี่ ช่วงเวลานั้นสองทีมต่างชิงไหวชิงพริบ ในการโต้กลับกันไปมา เพียงว่าฝั่ง ลิเวอร์พูล ดูจะนิ่งและมีความหลากหลายกว่าของ คูตินโญ่ และ เอ็มเร่ ชาน ที่คุมเกมได้ดีมาก

      และแล้วท้ายเกม สิ่งที่เดอะค็อปรอคอยกันมาแสนนานก็มาสักที เมื่อ ลัลลาน่า ได้บอลนอกเขตโทษฝั่งขวา ก่อนใช้สายตาพญาเหยี่ยว ปาดบอลทีเดียวมาถึง เกรียนโอ้ แปเข้าเสาแรกสุดแรงเกิด ชนิดว่าเจ้าตัวยังอึ้งว่ายิงได้ไงวะ 555 ส่วนเพื่อนร่วมทีมก็มาฮาเฮกันเต็มที่ พร้อมเป็น 3 คะแนน ให้ทีมมีลุ้นพื้นที่ ยูซีแอล ได้ยาวๆ ละทีนี้

      หากจะมองว่าการขาด ลูคัส ก็มีผลในเกมนี้มาก เพราะ เจอร์ราร์ด เชื่องช้าไปมาก จังหวะตัดเกมไม่ได้เปรียบ กลายเป็นโฉ่งฉ่างและฟาลว์บ่อยๆ ซึ่งตรงนี้ ร็อดเจอร์ส คงคงต้องแก้สถานการณ์ให้รอบคอบ ว่าจะให้ ชาน มาเล่นกลางดีไหม เพราะ ลอฟเรน น่าจะสภาพจิตใจดีขึ้น พอที่จะยืนเซนเตอร์ได้อยู่ และน่าจะดีกว่าคนฟอร์มตกอย่าง อัลลเลน ที่ไม่น่าไว้ใจเท่าไร เชียร์กันต่อไปนะครับ เกมหน้ากับการเจอ เบซิคตัส ใน ยูโรป้า ลีก ที่ แอนฟิลด์ อีก 9 วันจากนี้