หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เชลซี -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เชลซี -vs- ลิเวอร์พูล

earthmomo 2015-01-27 14:52:43 เชลซี , ลิเวอร์พูล
พรีวิว ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เชลซี -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เชลซี -vs- ลิเวอร์พูล

สนาม แอนฟิลด์

วันอังคาร 27 มกราคม 2015 เวลา 02.45 น.

ถ่ายทอดสดช่อง GMM ฟุตบอลพลัส, PPTV HD

พรีวิวการแข่งขัน

 

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

21/01/15 ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 1-1
08/11/14 ลิเวอร์พูล แพ้ เชลซี 1-2
27/04/14 ลิเวอร์พูล แพ้ เชลซี 0-2
29/12/13 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
21/04/13 ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 2-2
11/11/12 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
09/05/12 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 4-1
06/05/12 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 (สนามกลาง-เอฟเอ คัพ)
30/11/11 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (ลีก คัพ)
20/11/11 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เชลซี

24/01/15 แพ้ แบร็ดฟอร์ด 2-4 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
21/01/15 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (เยือน) ลีก คัพ
17/01/15 ชนะ สวอนซี 5-0 (เยือน)
10/01/15 ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 (เหย้า)
04/01/15 ชนะ วัตฟอร์ด 3-0 (เหย้า-เอฟเอ คัพ)

ลิเวอร์พูล

25/01/15 เสมอ โบลตัน 0-0 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
21/01/15 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (เยือน) ลีก คัพ
17/01/15 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 (เยือน) 
10/01/15 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (เยือน)
06/01/15 ชนะ วิมเบิลดัน 2-1 (เยือน)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้

เชลซี

21/01/15 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (เยือน)
17/12/14 ชนะ ดาร์บี้ 3-1 (เยือน)
29/10/14 ชนะ ชรูว์สบิวรี่ ทาวน์ 2-1 (เยือน)
25/09/14 ชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 2-1 (เหย้า)
18/12/13 แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 1-2 (เยือน) (ต่อเวลาพิเศษ)

ลิเวอร์พูล

21/01/15 เสมอ เชลซี 1-1 (เหย้า)
18/12/14 ชนะ บอร์นมัธ 3-1 (เยือน)
29/10/14 ชนะ สวอนซี ซิตี้ 2-1 (เหย้า)
24/09/14 เสมอ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-2 (เหย้า) (ชนะจุดโทษ)
26/09/13 แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 (เยือน)

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

     เชลซี จะกลับมาเล่นในรังบ้าง หลังจากบุกไปบุกไปเสมอ 1-1 ที่แอนฟิลด์ในเลกแรก เท่ากับว่าหากเกมนี้เสมอ 0-0 "สิงห์บลูส์" จะเข้ารอบชิงทันที ทั้งนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ เตรียมส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม เพื่อเรียกศรัทธากลับคืนมา จากเกมพ่ายแบร็ดฟอร์ด ในศึกเอฟเอ คัพ 2-4 ส่งผลให้ ธิโบต์ กูร์กตัวส์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, ฟิลิเป้ ลุยส์, เชส ฟาเบรกาส, เนมานย่า มาติช, วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ และ ดีเอโก้ คอสต้า จะควงแขนลงสนาม อย่างไรก็ตาม เทรนเนอร์ปากตะไกร ต้องเช็กฟิต จอห์น โอบิ มิเกล กับ อังเดร ชูร์เล่ สองกองกลางเชิงรับ และรุก ตามลำดับ

     ฝั่ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" เสียฟอร์มพอสมควร เมื่อทำได้แค่ เสมอโบลตัน 0-0 ในเกมเอฟเอคัพ ที่แอนฟิลด์ อีกทั้งเกมนี้ เงื่อนไขในการเข้ารอบค่อนข้างยาก ซึ่งต้องบุกชนะ หรือเสมอในสกอร์ 2-2 ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม "บีร็อด" มีข่าวดี เมื่อ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าความหวังสูงสุดของทีม ใกล้ฟิตเต็มร้อย จึงมีลุ้นออกตัวอยู่บนม้านั่งสำรองในเกมที่เดอะ บริดจ์ หรืออย่างช้าน่าจะมีชื่อในเกมลีกนัดถัดไปซึ่งจะโม่เกือกช่วงสุดสัปดาห์ ขณะเดียวกันอีกหนึ่งกองหน้าอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่ หายป่วย พร้อมล่าตาข่าย แต่ที่จะวืดแน่ๆก็คือ แบร็ดโจนส์ ผู้รักษาประตูออสซี่ และ จอน เฟลเนแกน ฟูลแบ็กดาวรุ่ง รวมถึงโคโล่ ตูเร่ ซึ่งอยู่ระหว่างรับใช้ชาติทำศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ

 

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี (4-2-3-1) : ธิโบต์ กูร์กตัวส์ ; บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ; เชส ฟาเบรกาส, เนมานย่า มาติช ; วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ ; ดีเอโก้ คอสต้า

ลิเวอร์พูล (3-4-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ ; เอ็มเร่ ชาน, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้ ; จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลว่า, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ; อดัม ลัลลาน่า, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

ADS