บทวิเคราะห์ ลิเวอร์พูล -vs- สโต๊ค ซิตี้ โดย แดนนี่ ฮิกกิ้นบอทแธ่ม

     จำได้ไหมว่า 12 เกมแรกของซีซั่นที่แล้ว ลิเวอร์พูล ถล่มสกอร์ได้มากถึง 18 ประตู ในครึ่งแรก นับเป็น 1 ใน 3 ของประตูทั้งหมด แต่พอมาฤดูกาลนี้ 12 เกมแรก พวกเขาทำได้แค่ 6 ประตู น้อยลงอย่างน่าใจหาย

     นี่เป็นสถิติที่เราต้องมาพิจารณาว่า วิธีเล่นเกมสวนกลับของพวกเขาดูจะไม่เวิร์คเสียแล้ว ซีซั่นก่อน ลิเวอร์พูล ดุดันมากตั้งแต่ต้นเกม ครองเกมอยู่ฝั่งเดียว แถมจู่โจมด้วยความเร็วตามที่ว่างในสนาม บุกกดดันอย่างหิวกระหาย ทำเอาคู่แข่งไม่กล้าขึ้นสูง ไม่มีทีมใดใน พรีเมียร์ ลีก ปีที่แล้วจะร้อนแรงไปกว่าพวกเขา

     แต่ที่มาของกลยุทธ์นี้ที่ได้ผลเพราะการมี หลุยส์ ซัวเรซ และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ทำให้แทคติกนี้สัมฤทธิ์ผล แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสองไมได้อยู่ในทีมแล้ว แต่ก็ยังหลงเหลือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่มีความเร็วจัดจ้านอยู่อีกคน ดังนั้น ลิเวอร์พูล เลยไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางการเล่นไป

     ทีมหงส์แดงในตอนนี้น่ากังวลในเกมรุกมากกว่าเกมรับ เพราะการไม่มีกองกลางที่สามารถดันสูงเพื่อช่วยกองหน้า รวมทั้งฟูลแบ็กสองฝั่งที่โยนบอลได้เหมาะเจาะ คู่แข่งเลยไม่ค่อยกลัวพวกเขาสักเท่าไร เพราะไม่มีอะไรให้รู้สึกกดดันในยามโดนโต้กลับ

     สโต๊ค ซิตี้ คู่แข่งพวกเขาในสุดสัปดาห์นี้ จัดเป็นทีมที่น่าหวั่นเกรง พวกเขาโชว์พลังมาแล้วในการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยแผน 4-2-3-1 จากนั้นปรับเป็น 4-5-1 ยามที่ต้องอุดยกทีม ซึ่งหมายถึงการไม่เหลือที่ว่างให้เล่น แถมสวนกลับด้วยปีกที่ว่องไวอย่าง วิคตอร์ โมเสส และ มาเม่ บิรัม ดิยุฟ กองหน้าคนซัดเรือใบหงายเก๋ง รวมทั้ง สตีเว่น เอ็นซองซี่, โบยาน เกอร์กิซ และ มาร์โก อาเนาโตวิช เช่นกัน

     ผมเห็นปัญหาที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในทีม ลิเวอร์พูล ลองสังเกตุช่วง 20 นาทีแรก หรือใน 20 นาทีสุดท้าย พวกเขาเสียประตูง่ายเกินไป ร่วมๆ 7-8 ประตู ในช่วงเวลาดังกล่าว ท่ามกลางเกมรุกที่พึ่งพาได้แค่สองคนคือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ชัดเจนว่ามีความสร้างสรรค์ในเกมรุก

     แต่มากไปกว่านั้น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องหยุดการเปลี่ยนแผนไปๆ มาๆ เสียที และคิดง่ายๆ ก่อนว่า ทำไงให้ทีมไม่เสียประตู เจอร์ราร์ด ไม่ได้เลวร้ายลงไป แม้เกมล่าสุดจะทำได้ไม่ดี หากแต่เพราะผู้เล่นรอบตัวเขามากกว่าอย่าง โจ อัลเลน และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทั้งคู่ดูจะชอบขึ้นสูงเกินไป ซึ่งไม่เหมาะนักกับบทบาทตัวปะทะ เจอร์ราร์ด จำเป็นต้องมีลูกหาบคอยช่วย เหมือนที่ เชส ฟาเบรกาส มี เนมานย่า มาติช คอยดูแล เห็นไหมว่า ฟาเบรกาส ผ่านบอลได้มากสุดในพรีเมียร์ ลีก เพราะสาเหตุนี้

     ทุกคนเอาแต่พูดถึงการลาทีมของ ซัวเรซ แต่ความจริงมันอยู่ที่การสตาร์ทช่วงต้นฤดูกาลให้ดีมากกว่า ปีที่แล้วพวกเขา เริ่มต้นด้วยการชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ใน 5 เกมแรก ทั้งๆ ที่ไม่มี ซัวเรซ และทีมก็ยังได้ที่สอง ในตอนที่เขากลับมา

     ร็อดเจอร์ส ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของกองกลางให้เน้นเกมรับกว่านี้ รวมทั้งไม่ควรให้ฟูลแบ๊กเติมเกมพร่ำเพรื่อมากนัก จนทำให้กองหลังว่าง และเกิดพื้นที่ในระยะ 18 หลาในกรอบ มันอันตรายไป

     และด้วยความที่ทีมไม่เหลือกองหน้าที่เร็วๆ แล้ว ผมคิดว่าเขาต้องให้ ริคกี้ แลมเบิร์ต คอยเก็บบอลข้างหน้า และทำให้เขาเป็นจุดศูนย์กลางด้วยความขยันขันแข็ง มันอาจไม่ใช่ ลิเวอร์พูล ที่อยากจะเห็น แต่มันก็ไม่เลวเลย ในตอนนี้ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่ทีมที่โต้กลับสุดอันตรายอีกต่อไปแล้ว ต้องยอมรับความจริง