หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / เดอะรีเทิร์นออฟราฟา จะคุ้มค่ากับหงส์แดงหรือไม่?

เดอะรีเทิร์นออฟราฟา จะคุ้มค่ากับหงส์แดงหรือไม่?

เดอะรีเทิร์นออฟราฟา จะคุ้มค่ากับหงส์แดงหรือไม่?

     หลังมีข่าวเชื่อมโยงอย่างหนาหู เกี่ยวกับการรีเทิร์นมาคุมทัพหงส์แดงของลุงหนวดคนหน้าเก่าอย่าง ราฟา เบนิเตซ แถมข่าวลือนี้เริ่มมีมูลหนักขึ้นเรื่อยๆ หลังเจ้าตัวเริ่มบ่นคิดถึงครอบครัวที่เมือง ลิเวอร์พูล ทั้งภรรยาและลูกสาว และระยะหลังก็ไม่ค่อยจะกินเส้นกับเจ้าของสโมสร นาโปลี เสียด้วย

     วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ร่วมกันถึง ข้อดีและข้อเสีย ในการกลับมาของ เบนิเตซ กันครับ

     เดอะมิร์เรอร์ สื่อเกาะอังกฤษรายงานอ้างว่าเฮียหนวดหมายมั่นปั้นมือที่จะกลับมาที่แอนฟิลด์ในซัมเมอร์หน้า หลังอนาคตในถิ่นเมืองเนเปิ้ลส์ ไม่ชัดเจนอีกต่อไป โดยเฉพาะผลงานที่ไม่ค่อยดีในตารางเซเรีย อา

     นอกจากนี้เชื่อกันว่า เจ้าตัวชอบการใช้ชีวิตในย่านเมอร์ซีย์ไซด์มากกว่า การห่างครอบครัวในระยะยาว ทำให้ เบนิเตซ เครียดมาก สวนทางกลับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการชาวไอร์แลนด์เหนือ ที่กำลังกดดันสุดขีดนับตั้งแต่มาคุมทัพเมื่อปี 2012 ว่ากันว่าหากผลงานทีมยังไม่ดีขึ้น น่าจะได้เตรียมตกงานในไม่ช้าค่อนข้างแน่ หลังกลุ่มทุนเฟนเวย์ กำลังประชุมหารือในเรื่องนี้อย่างเคร่งเครียด

     อย่างไรก็ดี ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นแค่สมมติฐานเท่านั้น ความจริงเรายังบอกอะไรแน่ชัดไม่ได้ แต่เราพอจะคาดเดาได้ว่าข้อดีและข้อเสียของ การคัมแบ็คสู่ ลิเวอร์พูลรอบ 2 ของ ราฟา จะดีร้ายอย่างไร?

 

ข้อดี

     หากพูดถึงมาตรฐานการคุมทีมของ เบนิเตซ ในวัย 54 ปี จัดว่าเขาเป็นผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมมาก ประสบความสำเร็จมาแล้วกับ บาเลนเซีย รวมถึงการมาปฎิวัติหงส์แดง ให้ร้อนแรงสุดๆ มาแล้ว ในยุคที่เขาคุมทีม ทั้งในเกาะอังกฤษและรายการยุโรป

     หลายทีมในยุโรปต่างครั่นคร้ามในแท็กติกสุดเขี้ยวลากดินที่ไม่เป็นสองรองใครในโลกนี้ของเขา เขาคิดทุกอย่างเพื่อให้ทีมของเขาได้เปรียบเสมอ

     ชัดเจนว่า เบนิเตซ เป็นกุนซือที่นิยมเกมรับที่เหนียวแน่น ฟุตบอลที่รัดกุมเสมอ ขณะที่ทีมชุดปัจจุบันเสียประตูง่ายเป็นว่าเล่ม พิจารณามุมนี้ เบนิเตซ เหนือกว่า ร็อดเจอร์ส อย่างชนิดว่าพ่อกับลูกได้เลย

     แม้ว่ารูปแบบการเล่นแบบเคาน์เตอร์แอ็ทแท็ค จะไม่ใช่สไตล์ที่แฟนๆ ชอบนัก แต่มันก็ทรงประสิทธิภาพเสมอ ช่วงพีคของ ลิเวอร์พูล ที่เขากุมบังเหียน มีกองกลางชั้นอ๋องอย่าง ชาบี้ อลอนโซ่ และ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ คอยปกป้องแผงแบ็คโฟร์ แถมมีพลังทะลุทะลวงของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่กำลังร้อนแรงสุดๆ ในขณะนั้น

    ข้อสังเกตคือ ในยุคของ ร็อดเจอร์ส บีร็อดไม่ค่อยให้ความสำคัญในการดึงตัวกองกลางที่ฝีเท้าระดับโลก ในตำแหน่งดังกล่าวเลยสักคน ซึ่งนั่นคือจุดอ่อนของบอสตาหวาน

     ยามลงเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เบนิเตซ โหดเสมอในการคว้าแต้ม ดีร้ายยังไง ได้แต้มตลอด เป็นทีมที่แพ้ยาก แถมยังได้ชูถ้วยเป็นเจ้ายุโรป สมัยที่ 5 ของสโมสร ในปีแรกที่ได้คุมทีม และยังพาทีมเข้าชิงได้อีกหนในปี 2007 ไม่นับการเข้ารอบเซมิไฟนอลปี 2008 และ รอบควอเตอร์ไฟนอล ในปี 2009

     บอลยุโรป เบนิเตซ คือเทพอย่างไม่ต้องสงสัย

     นอกจากนี้ยังมีเรื่องดีๆ ด้านอื่นๆ เขาเคยเป็นข่าวว่าบริจาคเงินจำนวณ 96,000 ปอนด์ (ประมาณ 5.1 ล้านบาท) สำหรับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ฮิลล์โบโร่ อยู่เป็นระยะๆ

     การกลับมาคราวนี้ของ เบนิเตซ คงจะเป็นการกลับมาสะสางภารกิจที่คาใจของเขาให้เสร็จสิ้น หลังต้องลาทีมไปแบบค้างคาไม่ใช่น้อย

ข้อเสีย

     ในประวัติศาสตร์ของ ลิเวอร์พูล ยังไม่เคยมีกุนซือคนใด ที่ได้การมาทำงานรอบสองแล้วประสบความสำเร็จเหมือนครั้งแรกเลยสักคน ตัวอย่างชัดเจนคือ เคนนี่ ดัลกลิช ในปี 2011 เขาใช้เวลา 18 เดือนเต็มๆ เพื่อล้มเหลวไม่เป็นท่า บางทีเรื่องราวแบบนี้อาจเกิดกับ เบนิเตซ ก็เป็นได้

     ค่าเฉลี่ยอายุนักเตะของทีมตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 23 ปี ซึ่งขัดกับแนวทางของ เบนิเตซ ที่ชอบนักเตะที่มีประสบการณ์สูงมาตลอด วัดได้จากเมื่อปี 2009 โดยมีแกนหลักอย่าง เปเป้ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, ชาบี อลอนโซ่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส และ เดิร์ค เค้าท์ ค่าเฉลี่ยอายุนักเตะอยู่ที่ 25 ปี

ข้อสรุป

     อย่างที่บอกไปข้างบน จินตนาการล่วงหน้าไว้ได้เลยว่า เราจะได้เห็นการซื้อตัวนักเตะที่เก๋าๆ แก่ๆ มาร่วมทีมอีกเพียบแน่ ถ้าหากเขาได้กลับมาจริงๆ และเราอาจได้หน้าของ เจอร์ราร์ด หงิกงอมากกว่าเดิมแน่ ยามที่ต้องเห็นการเปลี่ยนตัวเพื่อแท็กติกของ เบนิเตซ เหมือนที่เคยเห็นมาแล้ว ตอนที่ ตอร์เรส โดนถอดออก ในเกมพบ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในปี 2010 ทั้งที่เวลาเหลืออีกเพียบ

     เบนิเตซ เคยเกือบพาทีมได้แชมป์ลีก เมื่อซีซั่น 2009-10 ตามด้วยอันดับสองในฤดูกาลถัดมา จากนั้นก็ตกต่ำรุดมาอยู่ที่ 7 ในตอนนั้นแฟนบอลเดอะค็อปต่างพากันวิจารณ์ผู้บริหารอย่าง ทอม ฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเลตต์ ว่าเป็นตัวปัญหา แต่ความจริง ผลงานย่ำแย่ทั้งหมด เฮียหนวดสมควรแล้วที่ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

ADS