หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / ชำแหละร็อดเจอร์ส-ตามหา11ผู้เล่นตัวจริงเสียงจริง(สักที)

ชำแหละร็อดเจอร์ส-ตามหา11ผู้เล่นตัวจริงเสียงจริง(สักที)

ชำแหละร็อดเจอร์ส-ตามหา11ผู้เล่นตัวจริงเสียงจริง(สักที)

     เพิ่งผ่านไปหมาดๆ กับเกมดวล กาลาคติกอส ชุดขาว เรอัล มาดริด ที่สเปนไปหมาดๆ ซึ่งอย่างที่ทราบชั่วโมงนี้ ใครจะไปหยุดพวกเขาได้ ในเมื่อทีมแกร่งจากสเปน แนวรุกสุดโหดร้ายซะขนาดนี้ โดนแทงมาแค่ 1 แผล ถือว่าลูกทีม คาร์โล อันเชล็อตติ ปราณีแล้ว ในการเจอกับทีมที่เจ๋งสุดในโลกตอนนี้ ทั้งที่ราคาก่อนเกมมาตั้งสองลูก เราก็ยังต้องลุ้นปัสสาวะเหนียวในการเข้ารอบต่อไป แบบต้องใช้ดวงพอสมควรใน 2 นัดที่เหลือ ซึ่งไม่ง่ายแล้วกับเส้นทาง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

     วันนี้จะพูดเรื่องที่สงสัยมานาน น่าจะมีใครสังเกต คือจนป่านนี้ 5 เดือน ดูเหมือน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ดูจะยังหา 11 ผู้เล่นตัวจริงให้เป็นฝั่งเป็นฝาไมได้สักกะที เดี๋ยวโรเตชั่น เวียนคนนี้เข้า คนนั้นออก คู่กองหลังก็ยังไม่รู้จะเอาใครคู่ใคร ล่าสุดแกมีทีเด็ด มองข้ามช็อตด้วยการดร็อป สตีเว่น เจอร์ราร์ด ไว้ที่ข้างสนาม เป็นนัยว่านัดนี้อั๊วะไม่เอาแล้ว เสมอได้แต้มก็นับว่าโชคดี หวังฟลุ๊คว่างั้น แน่นอนว่าการไม่มีผู้เล่น 11 ตัวจริงที่แน่นอน ยากแน่ที่จะคาดหวังให้ทีมทำผลงานได้ดี มองทีมอย่าง แมน ซิตี้ หรือ เชลซี เราเดาออกเลยว่า ใครจะลงบ้าง ผิดพลาดไม่เกิน 1 คน แต่ทีมเราเอาแน่อะไรไม่ได้เลย

     อย่างเกมที่เจอกับ ฮัลล์ ซิตี้ แกเลือกพัก เฮนเดอร์สัน และ คูตินโญ่ ทั้งๆที่สองคนนี้ เล่นในเกมแพ้ มาดริด 0-3 ไปแค่ 60 นาที ส่วน จอห์นสัน ไปอยู่ม้านั่งสำรอง มานกิโญ่ ไปประจำการแบ็คขวา ให้ ชาน กับ อัลเลน ไปคุมแดนกลาง เกมนี้ทราบกันดี สร้างโอกาสพอใช้ได้ แต่ไม่มีปัญญาจะเจาะประตู คำถามมีอยู่ว่า ทำไม ร็อดเจอร์ส ถึงเลือกเอามิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของทีมไปไว้สำรอง แล้วถ้างั้นจะเปลี่ยนตัวเขาออกมาตั้งแต่นาที 60 ไปทำมะเขืออะไร? ซึ่งเป็นการทำลายระบบตัวเองที่ต้องการให้กองกลางคอยสร้างสรรค์โอกาส ให้ บาโลเตลลี่ ทำประตู แถมไม่พอยังดึงดันให้ เจอร์ราร์ด ในวัย 33 ปี ลงเล่น 3 เกมติด ทั้งที่เขาควรจะถูกอยู่ที่ม้านั่งสำรองเพื่อพักบ้าง

     คำถามเหล่านี้ยังไม่จบสิ้นครับ ในการหา 11 ตัวจริงเสียงจริง ไล่ไปทีละตำแหน่ง โกล์มือ1 อย่าง ซิมง มิโญเลต์ เขาดูจะเป็นคนที่เหนียวไม่เบา แต่ดูทรงแล้วยังไง แกก็ไม่น่าใช่คำตอบระยะยาวเลย ด้วยลักษณะการยืนตำแหน่งที่สะเพร่า ชวนน่าส่ายหัว ส่วน แบร็ด โจนส์ เราไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มีศักยภาพจะมาเป็นคู่แข่งกดดันอะไรได้อยู่แล้ว

     มานกิโญ่ น่าเป็นตัวหลักของแบ็คขวา ส่วน จอห์นสัน รู้ๆกันอยู่ว่าหมอนี่มันไม่ได้ดีเลิศอะไรมาก แถมผิดพลาดบ่อย ในการไม่อยู่ในตำแหน่ง ผิดกับรุ่นน้องสเปนที่ยามเสียบอลก็ขยันแย่งคืน มีพลังเต็มที่ 90 นาที ไม่ต้องงงนะครับว่าทำไม จอห์นสัน ถึงไม่ได้ต่อสัญญา

     โมเรโน่ ในตำแหน่งฟูลแบ็คซ้าย ยังคงเป็นตัวหลัก ได้ฟอร์มที่ดูทรงพลังเสมอ แม้จะยังไม่เฉียบขาดในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะครอสบอลหรือตัดบอล ยังคิดช้าไปนิด แต่ก็ยังมี เอ็นริเก้ ที่พอจะทดแทนได้ เห็นทีคงต้องรอ ฟลานาแกน หายเจ็บกลับมาละมั้ง

     คู่ปราการหลังตัวกลาง พื่นที่ยุทธศาสตร์ของหงส์แดงที่แสนเปราะบาง ตำแหน่งที่เน่าที่สุดของเรา ผ่านไปจะ 5 เดือน เราพอจะเห็นแล้ว ลอฟเรน น่าจะเป็นการซื้อที่ผิดพลาดชัดเจน เขายังพิสูจน์อะไรไม่ได้เลย จับคู่กับ มาร์ติน สเคอร์เทล ก็ไมได้เป็นโล้เป็นพายอะไรเลย ในทรรศนะผมคิดว่า ซาโก้ ยังน่าจะดีกว่า ในเชิงเหลี่ยมบอล การเล่นลูกกลางอากาศและพื้นดิน แต่อย่างว่า เขายังเจ็บอยู่ ถามว่าทำไม? สถิติการจับคู่ของ ลอฟเรนกับพี่ปลาคราฟ เสียประตูนัดละไม่ต่ำกว่า 2 ลูก ส่วน ซาโก้ ลงเสียแค่ 1.4 ประตู แล้ว ตูเร่ ละ เขาเลยจุดพีคไปนานแล้ว มีแต่ใจล้วนๆ ดังนั้น ซาโก้ น่าจะเป็นตัวหลัก แล้วหาคนมาประกบกับเขา จะดีที่สุด

     ในแผงกลาง เจอร์ราร์ด มีแต่นับถอยหลังโรยราลงทุกวันๆ แต่เขาก็ยังมีความสำคัญเสมอ เฮนเดอร์สัน ก็มีพลังที่ไม่หมดง่ายๆ และเพรสซิ่งได้เยี่ยม คูตินโญ่ ก็เป็นกึ่งตัวฟรีที่เป็นโจีกเกอร์ คอยเล่นลูกฉาบฉวยด้วทักษะเฉพาะตัว กระนั้นทั้งคู่ ยังขาดความเด็ดขาดในการให้บอลหรือเล่นบอลจังหวะสุดท้าย ดังนั้น เจอร์ราร์ด ถึงยังไปจากทีมไม่ได้สักที ด้วยการผ่านบอลที่แม่นยำที่สุดของทีม

    สามประสานทรีโอแดนหน้า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ มาริโอ บาโลเตลลี่ ถ้าอยู่กันครบ จัดว่าดุเดือดไม่แพ้แนวรุกทีมไหนในโลกเหมือนกัน ผสมผสานไปด้วย ความเร็ว, ความแกร่ง, วิสัยทัศน์ และ ความเข้าใจในแท็คติก และจังหวะจบสกอร์ที่ยากจะรับมือ น่าคิดนะครับว่า ถ้า จอมเซิ้งกลับมา น่าจะรีดศักยภาพของโอ้ออกมาได้แน่ เหมือนเกมที่บอมบ์ สเปอร์ 3-0 ในแบบที่เกมรุกสุดลื่นปรื๊ด ตีเป็นแตก ผนวกกับ สเตอร์ลิ่ง ไอ้หนูพรสวรรค์สูง ทีมยังไม่แย่เกินไปแน่ๆ ครับ

     การไม่มี สเตอร์ริดจ์ ส่งผลชัดมาก ในแง่ความกดดันของแนวรุกสองคนที่เหลือ ทั้งการทำประตูและการสร้างสรรค์ คนนึงยังเด็ก คนนึงมาใหม่ ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะรับมือความกดดันนี้ไมได้ เพราะมันไม่เคยเป็นหน้าที่หลักของพวกเขามาก่อน ดังนั้นการอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา 3 คน พวกเขาจะมีชีวิตชีวามากกว่าเป็นปกติเลยในการทำประตู

     สรุปเลยว่า ลิเวอร์พูล 11 ตัวจริงเสียงจริง ในความคิดของผม คือระบบ 4-3-3 หรือจะเป็นไดมอนด์(เพชร) ก็ตามแต่ น่าจะเป็นระบบที่ธรรมชาติมากที่สุด เหมาะสมที่สุดกับทีม

     โดยตัวจริงประกอบไปด้วย มิโญเลต์, โมเรโน่, ซาโก้ , สเคอร์เทล, มานกิโญ่, เจอร์ราร์ด, เฮนเดอร์สัน, คูตินโญ่, สเตอร์ลิ่ง, บาโลเตลลี่, สเตอร์ริดจ์

     สำรอง โจนส์, จอห์นสัน, ลอฟเรน, ลัลลาน่า, มาร์โควิช, แลมเบิร์ต, อัลเลน, ชาน

     บางทีการดัน สเตอร์ลิ่ง ไปเล่นกองหน้า แล้วเติม ลัลลาน่า ไปเป็นเพลย์เมกเกอร์ หรืออยู่กราบซ้าย ร่วมกับ โอ้ และ ลิ่ง ในสูตร 4-3-3 ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ดู ร็อดเจอร์ส จะไม่กล้าลองดูสักที ที่สุดแล้วคำตอบของปริศนาทั้งหมด คือการกลับมาของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เมื่อเขาหายบาดเจ็บกลับมาล่าประตู เราคงได้รู้กันว่าสมมติฐานที่พูดกันมายาวเหยียดนี้ จะเป็นจริงไหม ต้องรอดูกันครับ?

ADS