หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / ย้อนเวลาหา"น้าฮูเปีย" ครบรอบ41ปี ตำนานภูผาน้ำแข็งแห่งฟินแลนด์!!

ย้อนเวลาหา"น้าฮูเปีย" ครบรอบ41ปี ตำนานภูผาน้ำแข็งแห่งฟินแลนด์!!

ย้อนเวลาหาน้าฮูเปีย ครบรอบ41ปี ตำนานภูผาน้ำแข็งแห่งฟินแลนด์!!

     ช่วงนี้กองหลังของทีมเราฟอร์มไว้ใจไม่ได้เลยสักคน ไม่ว่าจะ เดยัน ลอฟเรน หรือ มาร์ติน สเคอร์เทล หรือคนอื่นๆ ก็พร้อมเป็นบ่อได้ตลอดเวลา เห็นแล้วเซ็งจิต ทำเอาหลายคนอาจจะนึกถึง โคตรกองหลังของทีมเรา อย่างซามี่ ฮูเปีย ที่เคยฝากผลงานสุดแกร่งในพรีเมียร์ ลีก มายาวนาน แม้ว่าจะลาทีมไปหลายปีก็ตาม

     วันนี้แอดมินท็อป (armada28) จะพาทุกท่านย้อนเวลาไปหาชายผอมกะหร่องคนนี้ "ซามี่ ฮูเปีย ตำนานภูผาน้ำแข็งฟินแลนด์"

     หากยังจำกันได้ในปี 1999 ฮูเปีย ย้ายจากทีม ไมปา ทีมกิ๊กก๊อกในลีกฟินแลนด์มาร่วมทีมหงส์แดง แบบไม่มีใครให้ความสนใจนัก ด้วยเพราะชื่อชั้นก็ยังไม่มี เป็นแค่แข้งโนเนมธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่ใครจะรู้ว่า นี่คือการซื้อตัวกองหลังที่คุ้มค่าที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 2.6 ล้านปอนด์ ถูกกว่า เดยัน ลอฟเรน ปราการหลังโครเอเชีย เกือบ 8 เท่า ฮ่าๆๆๆๆๆ

     เส้นทางการค้าแข้งของ ฮูเปีย ถือว่าเริ่มต้นเร็วมาก เพราะได้เล่นเป็นตัวจริงนัดแรกกับ ไมปา ตั้งแต่ตอนอายุ 19 ปี ในปี 1992 แถมผลงานก็ไม่ธรรมดา พาทีมคว้าแชมป์ บอลถ้วย ฟินนิช คัพ ตั้งแต่ซีซั่นแรกเลย และก็มาได้ถ้วยนี้ซ้ำอีกครั้งในปี 1995

     จากนั้นก็ได้ย้ายมาอยู่ วิลเล่ม ทเว ทีมในลีกฮอลแลนด์ เขาพาทีมบินสูงได้ผ่านเข้ารอบควอลิไฟล์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีสุดท้ายกับทีม เรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างหนึ่งของฮุูเปีย ก่อนที่มาอยู่ วิลเล่ม ทเว คือ เขาเคยถูกปฎิเสธจาก นิวคาสเซิ่ล ที่มองว่าเขายังไม่ดีพอ หลังมีโอกาสมาทดสอบฝีเท้ากับทีม ช่างตาต่ำจริงๆ ทีมสาลิกาดง ฮ่าๆๆๆๆ

     ต่อมาไม่นาน ฮูเปีย ก็ได้ย้ายจาก วิมเล่ม ทเว มาอยู่ใน แอนฟิลด์ ด้วยราคาแค่ 2.6 ล้านปอนด์ สมใจปราถนาชาวหงส์แดง ซึ่งว่ากันว่านี่คือการทำธุรกิจที่คุ้มสุดๆ ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ ลีก เขาใช้เวลาไม่นานแค่ปีที่สอง ก็ได้เป็นกัปตันทีมแล้ว ด้วยฟอร์มที่คงเส้นคงวา บวกกับ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และ เจมี่ เร้ดแน็ปป์ กัปตันทีมขาประจำ ดันมาล้มเจ็บกันบ่อย เลยเป็นโอกาสของ ฮูเปีย ไปโดยปริยาย

     ในซีซั่น 2000-01 เขายังประสบความสำเร็จสุงสุดกับ ลิเวอร์พูล ด้วยการคว้า 3 แชมป์บอลถ้วย ทั้งลีกคัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า คัพ ในยุคของ เชราร์ อุลลิเยร์ แต่แล้วในปี 2003 เขาก็มาเสียปลอกแขนกัปตัน ให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่ ฮูเปีย ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ยังคงจับคู่กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ คุมเกมรับอย่างแข็งแกร่งไม่มีเปลี่ยนแปลง แถมว่ากันว่าเขาเป็นแบบอย่างที่มีอิทธิพลมากกับการพัฒนาการเล่นของ เจอร์ราร์ด จนกลายมาเป็นตำนานมิดฟิลด์ของอังกฤษในตอนนี้

     และโทรพี่ที่สุดในของชีวิตเขาก็คือ ตำนานนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่อิสตันบูล ในเกมที่พลิกนรก วกสวรรค์ คัมแบ็กจากการถูก เอซี มิลาน ออกนำไปถึง 3-0 ในครึ่งแรก ก่อนเสมอ 3-3 และดับซ่าทีมอิตาลีในการดวลจุดโทษ คว้าถ้วยเจ้าหูยักษ์ไปชนิดที่น่าจะมีคนหัวใจวายตายคาทีวีไปหลายคนอยู่ ฮ่าๆๆๆ

     ในช่วงท้ายๆ กับ ลิเวอร์พูล ด้วยอายุอานามที่ชักมาก ก็ทำให้ ฮูเปีย ไม่ค่อยมีโอกาสลงสนามสักเท่าไร ก็เลยจากไปพร้อมสถิติลงสนาม 464 นัด และเลือกย้ายไปอยู่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมในบุนเดสลีกา ซึ่งไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่า นี่คือทีมที่สามเท่านั้นในตลอดชีวิตการค้าแข้งของ ฮูเปีย นับตั้งแต่ย้ายจาก วิมเล่ม ทเว ว่ากันว่าเขาเป็นคนที่รักสโมสรมาก ในเกมอำลาทีมนัดสุดท้าย ที่พบ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ราฟา เบนิเตซ ทำซึ้งด้วยการส่งเขาลงสนามแทน เจอร์ราร์ด ในครึ่งหลัง แฟนๆ เดอะค็อป ร้องเพลงเชียร์สั่งลา ฮูเปีย กันสุดฤทธิ์ ทำเอาเจ้าตัวต่อมน้ำตาแตกด้วยความซึ้งใจ และนั่นคือเกมสุดท้ายของเขาในชุดสีแดงเพลิง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2009

     ล่าสุด ฮูเปีย เพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 41 ไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ปัจจุบัน เฮียปู (ฮูเปีย) ขวัญใจของพวกเรา ได้เข้ารับงานเป็นผู้จัดการทีม ไบร์ทตัน อัลเบี้ยน ทีมระดับแชมเปี้ยนชิพอยู่ กำลังบ่มเพาะประสบการณ์ในการคุมทีม เพื่อว่าสักวันหนึ่งอาจมีโอกาสมาคุมทีมในพรีเมียร์ ลีก บ้างในอนาคต ซึ่งยังต้องพิสูจน์ผลงานตัวเองอีกมากมาย เพราะอันดับในลีกก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ยังอยู่ในโซนท้ายตารางอันดับ 19 ในตอนนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ฮูเปีย ก็ยังคงเป็นตำนานในใจของ แฟนๆ ลิเวอร์พูล อย่างเราๆ ตลอดไป อย่างน้อยยามที่กองหลังชุดปัจจุบันเล่นไม่ได้เรื่อง ก็ยังคนพูดถึงเขาอยู่เสมอ ไม่ค่อยจะมีใครนึกถึง คาร์ราเกอร์ สักเท่าไร ฮ่าๆๆๆๆๆ


    สุดสัปดาห์นี้เชียร์แข้งหงส์แดงในทีมชาติอังกฤษกันไปพลางๆก่อนครับ เราคงได้เห็นพวกเขาไล่ถล่มซานมารีโน่ กันมันส์แน่ ทั้งเจ้า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, อดัม ลัลลาน่า  จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ริคกี้ แลมเบิร์ต You'll never walk alone พบกันใหม่ครับผม

 

ADS