This break I will Come back

leivagod 2014-10-07 14:32:37 หงส์แดง , ลิเวอร์พูล
This break I will Come back

This break I will Come back (เบรคครั้งนี้ข้าจะกลับมา!!!)

     ต้องบอกเลยว่าฟอร์มอันย่ำแย่ที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้นั้นสาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการพักเบรคให้กับโปรแกรมทีมชาติ หลังเกมที่พวกเราสามารถบุกไปถล่ม ''ไก่เดือยทอง'' ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ได้ถึงถิ่น 3-0 ก็ดันต้องไปหลีกทางให้กับ ฟีฟ่าเดย์ ทั้งๆที่ฟอร์มของพวกเรานัดนั้นเล่นกันได้อย่างเพลินตาทั้งเกมรุกและเกมรับดูจะลงตัวแทบในทุกตำแหน่ง

     การหลีกทางให้กับโปรแกรมทีมชาติ หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันส่งผลกระทบอย่างไรต่อทีมวันนี้ผมจะอาสามาแถลงไขมันเอง แน่นอนการไปเล่นให้กับทีมชาตินักเตะบางคนต้องเดินทางไกลความเหนื่อยล้าน่าจะเป็นข้อแรกเลยที่เราต้องคิด ส่วนข้อต่อมาแน่นอนนักเตะหลายคนกำลังกระหายในชัยชนะที่มีต่อ สเปอร์ และอยากทำให้มันได้อีกครั้งอย่างต่อเนื่องในลีกแต่ทว่าดันมีเกมทีมชาติมาเบรคฟอร์มอันร้อนแรงของพวกเขาไว้ซะนี่ และอีกหนึ่งข้อที่ต้องบอกอาจจะเป็นเฉพาะแค่บางทีมที่เกิดขึ้นนั่นก็คือปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะ

     ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ , โจ อัลเลน , เอ็มเร่ ชาน , จอน ฟลานาแกน และ มามาดู ซาโก้ รายชื่อนักเตะเหล่านี้บางคนเป็นตัวหลักที่ฟอร์มกำลังดีบางคนเป็นอะไหล่สำรองของทีมที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ทว่าทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักลงไปด้วยอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการกลับไปเล่นให้ทีมชาติ ปฎิเสธไม่ได้หรอกครับที่จะไม่ให้ใครไปรับใช้ชาติใครก็อยากจะทำเพื่อชาติทั้งนั้น นักเตะแต่ล่ะคนเลยใส่กันเต็มที่จนได้รับบาดเจ็บกลับมา ซึ่งนักฟุตบอลรู้กันดีอยู่แล้วว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นบางทีมันอาจจะพรากฟอร์มที่กำลังสุดยอดของพวกเขาไปด้วย ทั้งหมดนี่แหละคือสิ่งที่พวกเรากำลังเผชิญกับมัน

     หลังจากกลับมาจากการเบรคให้กับทีมชาติหนแรก เราก็มีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แอสตัน วิลล่า ซึ่งทุกคนก็คนได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดกันไปแล้วเมื่อพวกเราพ่ายคาบ้านต่อ ''สิงห์ผยอง'' ไป 0-1 แบบที่ว่ารูปเกมชวนหน้าเบื่อสิ้นดี เค้าโครงการเล่นที่เคยทำไว้ในนัดเจอ สเปอร์ หายไปแบบไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย ถัดมาชัยชนะเหนือ ลูโดโกเรตส์ ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ก็ได้มาแบบโชคช่วยในนาทีสุดท้ายจริงๆ และเกมต่อมาก็กลายเป็นการพ่ายแพ้นัดที่ 3 ของทัพ ''หงส์แดง'' จนได้ ด้วยการบุกไปแพ้ต่อ ''ขุนค้อน'' เวสต์แฮม 1-3 แบบชนิดที่ต้องเรียกว่ารูปเกมดูน่าเกลียดจริงๆ และหลังจากนั้นก็แย่และทุลักทุเลมาตลอดจนกระทั่งเกมล่าสุดพวกเราสามารถกลับมาเก็บชัยชนะได้อีกครั้งในรอบ 4 เกมหลังสุดเหนือ เวสต์บรอมวิช 2-1 แต่ทว่าถึงสัปดาห์นี้เราก็จะต้องหลีกทางให้กับโปรแกรมทีมชาติอีกครั้ง

     ซึ่งคราวนี้แหละผมคิดว่ามันน่าจะเป็นข้อดีของการเบรคให้กับโปรแกรมทีมชาติเสียที เพราะนักเตะส่วนใหญ่ของเราก็น่าจะเริ่มท้อในการเล่นกันบ้างแล้วกำลังใจน่าจะมีกันแบบไม่เต็มร้อยสักคน นี่จะทำให้พวกเขาได้กลับไปสร้างความมั่นใจในนามทีมชาติก่อนกลับมาระเบิดฟอร์มให้กับทัพ ''หงส์แดง'' อีกครั้ง ข้อดีอีกอย่างคือนักเตะที่บาดเจ็บมาจากการเบรคครั้งแรกแล้วน่าจะยังไม่หายเจ็บหรือใกล้หายเจ็บแล้วพวกเราก็จะมีข้ออ้างในการไม่ปล่อยตัวนักเตะกลับไปรับใช้ชาติเนื่องจากนักเตะยังไม่ฟิตสมบูรณ์พอ เมื่อนักเตะไม่ได้เข้าแคมป์กับทีมชาติคราวนี้พวกเขาก็จะสามารถเรียกความฟิตกลับมาได้อย่างเต็มที่และพร้อมที่จะกลับมาระเบิดฟอร์มให้เราได้อีกครั้ง(ถ้าพวกเขาไม่หลุดฟอร์มไปเสียก่อนนะ)

     ทั้งหมดนี่แหละที่ผมอยากให้มันเกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล หลังจากนักเตะของเราแยกย้ายกลับไปรับใช้ชาติ เชื่อเหลือเกินว่า เดอะ ค็อป ทั่วโลกรวมถึงตัวผมเองก็อยากเห็นฟอร์มของ ลิเวอร์พูล กลับมาเป็น ''เครื่องจักรสีแดง'' ย่อมๆอีกครั้งหลังจากที่เราเคยทำได้ในเกมเจอ สเปอร์ แต่บางทีเราก็อาจจะโทษแต่โปรแกรมทีมชาติที่เข้ามาเบรคฟอร์มตอนนั้นอย่างเดียวไม่ได้หรอก เราต้องพยายามแก้ไขแผนการเล่นของเราด้วยที่บางทีคู่ต่อกรของเราแต่ล่ะทีมเขาอาจจะจับทางของพวกเราได้หมดแล้ว ช่วงเวลานี้แหละที่จะทำให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ได้มีเวลากลับไปคิดไตร่ตรองถึงแผนการเล่นที่จะนำกลับมาใช้ในเกมที่จะบุกไปเยือน ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส เมื่อพวกเรากลับมาจากโปรแกรมทีมชาติ และหลังจากนั้นผลจะเป็นอย่างไหร่ก็คงไม่มีใครคาดเดาอะไรได้หรอก You'll Never Walk Alone

ADS