โคตร 5 เกมเยือนแชมเปี้ยนส์ลีกระดับตำนาน!!

     และแล้วก็ถึงเวลาของฟุตบอลยุโรปกลางสัปดาห์นี้ กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ ลิเวอร์พูล ของเราจะออกไปเยือน เอฟซี บาเซิล ทีมแกร่งแดนสวิส ที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไรได้ดีมากมายนักในลีก เมื่อเทียบกับ ลิเวอร์พูล ของเราที่ทำได้ดีกว่านิดนึง 555 เรียกว่าเรายังเป็นต่ออยู่เล็กน้อยในคืนนี้

     วันนี้แอดมินท็อป (armada28) อาสาพาทุกท่านไปย้อนอดีตที่แสนหวานเจี๊ยบ กับเกมเยือนที่ต้องจดจำระดับตำนานกับ 5 เกมที่คัดสรรมาต่อไปนี้ ที่เรียกได้ว่า สุดติ่งกระดิ่งแมว กันทั้งนั้น มีแมตช์ไหนบ้าง มาดูกันครับ

อันดับที่ 5 โอลิมปิก มาร์กเซย 0-4 ลิเวอร์พูล -11 ธันวาคม 2007

     ย้อนไปเมื่อซีซั่น 2007-08 ราฟา เบนิเตซ เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะเหนือ มาร์กเซย เพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังจากแพ้ไปก่อนในนัดแรก ให้ทีมดังฝรั่งเศสที่ แอนฟิลด์ ดังนั้นนัดนี้พวกเขาต้องชนะสถานเดียว
     สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้จุดโทษ พร้อมกับการโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ เดิร์ค เค้าท์ และ เฟร์นานโด ตอร์เรส แต่มันก็ถูกเซฟไว้ได้โดย สตีฟ มองด็องด้า แต่ สตีวี่จี ก็ไวพอที่จะวิ่งเข้าไปซ้ำได้สำเร็จ
     จากนั้น ตอร์เรส ที่กำลังอยู่ในช่วงพีค ก็มาซัดประตูที่สุดยอดตั้งแต่นาทีที่ 11 ทำให้เกมตกเป็นของหงส์แดงทันที เขาหลุดเดี่ยวผ่านกองหลัง ก่อนสไลด์ตัวยิงเข้าไปในมุมแคบ
     ลูกทีมของ เบนิเตซ ยังคงเป็นฝ่ายคุมเกมไว่ได้หมด และ เค้าท์ ก็มาซัด 3-0 ในครึ่งเวลาหลัง จากการผ่านบอลมาให้ของ แฮร์รี่ คีเวลล์ ในเขตโทษ
     และก็ปืดท้ายที่ ไรอัน บาเบิล ที่ส่งลงมายิงปิดกล่องในช่วงท้ายเกม แบบโล่งๆ ท้ายที่สุดพวกเขาผ่านเข้ารอบ เซมิ-ไฟนอล ไปพบกับ เชลซี

11 ผู้เล่นตัวจริง: เรน่า, อาร์เบลัว, คาร์ราเกอร์, ฮูเปีย, รีเซ่, คีเวลล์, มาสเชราโน, เจอร์ราร์ด, เบนายูน, เค้าท์, ตอร์เรส

อันดับที่ 4 อินเตอร์ มิลาน 0-1 ลิเวอร์พูล - 11 มีนาคม 2008

     ในเกมที่ตึงเครียด เลกแรกในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลได้เปรียบมหาศาล ด้วยการชนะไปก่อน 2-0 ต้องขอบคุณประตูของ เค้าท์ และ เจอร์ราร์ด ทั้งๆ ที่ลูกทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ในเวลานั้น แข็งแกร่งสุดๆ แต่พลพรรคหงส์แดงก็หาวิธีชนะจนได้
     ต่อมา เลกที่สอง ที่ ซานซีโร่ ยิ่งเป็น ลิเวอร์พูล ที่โชว์ฟอร์มขั้นเทพจนย้ำชัยชนะได้ คืนนั้น คาร์ราเกอร์ และ ฮูเปีย จับคู่กันได้สุดแกร่ง โดยเกมนั้น คาร์ร่า เริ่มต้นด้วยการเป็นแบ็คขวา ขณะที่ มาสเชราโน เด่นสุดๆ กับการรับบทโฮลด์ดิ้งบอลกลางสนาม พร้อมโชว์ฟอร์มระดับโลกออกมา
     ทั้งสองทีม มีโอกาสหลายครั้งในครึ่งแรกที่จะทำประตูกัน แต่นายทวารทั้งสองทีม อย่าง เรน่า และ ชูลิโอ เซซาร์ ก็เหนียวกันเหลือเกิน
     แต่แล้ว กลางครึ่งหลัง นิโกลาส์ บูร์ดิสโซ่ ก็มาถูกไล่ออกไป ทำให้ มันชินี่ ถึงกับกุมขมับ และแล้วก็เป็น ตอร์เรส ที่มาซัดประตูสุดงามให้ทีมขึ้นนำในนาทีที่ 64 จากลูกจ่ายของ ฟาบิโอ ออเรลิโอ ในกรอบ 18 หลา และจบเกม พวกเขาก็ผ่านเข้ารอบควอเตอร์ไฟนอลต่อไป

11 ผู้เล่นตัวจริง: เรน่า, คาร์ราเกอร์, สเคอร์เทล, ฮูเปีย, ออเรลิโอ, บาเบิล, มาสเชราโน, เจอร์ราด, ลูคัส, เค้าท์ และ ตอร์เรส

อันดับที่ 3 ยูเวนตุส 0-0 ลิเวอร์พูล -13 เมษายน 2005

     ถึงแม้ว่าเกมนี้จะเป็นแค่ผลเสมอ แต่มันก็มากพอที่จะได้เข้ารอบ เซมิ ไฟนอล มันคือคืนนี่น่าจำจดที่ตูริน นี่คือความกล้าหาญอย่างมาก ก่อนที่นัดชิงปีนั้น ทีมจะสร้างตำนานที่อิสตันบูลได้
     ไอ้ม้าลายชุดนั้น มีแต่ดาราโคตรดาราทั้งทีมอย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน, ลิลิยอง ตูราม, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, พาเวล เนดเวด, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ แต่ พวกเขาก็แพ้เรามาก่อน 2-1 ในเลกแรก
     เกมนี้ ไม่มี เจอร์ราร์ด ลงสนามด้วยอาการบาดเจ็บ แต่ทั้งทีมก็ช่วยกันได้ดีตั้งแต่ต้นจนจบ ที่สนาม สตาดิโอ เดลเล่ อัลปิ พร้อมกับความท็อปฟอร์มของ ชาบี อลอนโซ่ ในแดนกลาง
     ทั้ง อิบราฮิโมวิช และ มิลาน บารอส ตั้งพลาดโอกาสทำประตูกันไป ที่ เอเมอร์สัน และ คันนาวาโร่ ตั้งสกัดบอลออกจากเส้นกันคนละที
     ปีนั้น หงส์แดงเข้ารอบ เซมิไฟนอลไปเจอ เชลซี และฝ่าด่านสำเร็จ ก่อนสร้างมหากาพย์ตำนานพลิกล๊อกชนะ เอซี มิลาน ที่อิสตันบูล คว้าแชมป์ได้สำเร็จ

11 ผู้เล่นตัวจริง: ดูเด็ค, ฟินแนน, ฮูเปีย, คาร์ราเกอร์, ตราโอเร่, นูนเยซ, บิสคาน, อลอนโซ่, รีเซ่, หลึยส์ การ์เซีย และ บารอส

อันดับที่ 2 เรอัล มาดริด 0-1 ลิเวอร์พูล - 25 กุมภาพันธ์ 2009

     วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ 2009 เหล่านักเตะลิเวอร์พูล เตรียมออกไปดวลแข้งกับโคตรทีมอย่าง แรอัล มาดริด ที่ ซานติอาโก เบอร์นาเบว
มันไม่ได้น่ากลัวอะไรมากมายในการไปเยือนที่นั่น โดยเฉพาะกับเกม รอบ 16 ทีมสุดท้ายในซีซั่น 2008-09 ในเวลานั้น ลูกทีมของ ราฟา เบนิเตซ ได้รับการยอมรับมาก ว่าแข็งแกร่งเสมอในเกมยุโรป ทำให้พวกเขาไม่ได้หวั่นเกรง ราชันชุดขาวสักเท่าไร
     ในครึ่งแรก มาดริด มีโอกาสจาก ราอูล และ กอนซาโล ฮิกัวอิน แต่หงส์แดงทีมเยือนสร้างความอันตรายได้มากกว่า จากการคุกคามของ ตอร์เรส และ เบนายูน ที่ผลัดกันล่อเป้า อิเคร์ กาซิยาส
     อาร์เยน ร็อบเบน เกือบซัดให้เจ้าบ้านขึ้นนำ แต่ก็ติดปลายมือของ เรน่า ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็ตอบโต้ ด้วยลูกฮาล์ฟวอลเลย์ของ อลอนโซ่ ใส่ กาซิยาส เช่นกัน
     ใน 8 นาทีสุดท้าย ไฮไลต์สำคัญก็มาถึง เบนายูน กองกลางร่างผอมบางที่สุดของทีม วิ่งเข้าโขกลูกเปิดฟรีคิกของ ออเรลิโอ เข้าไปในระยะ 6 หลา เป็นประตูชัยในที่สุด

11 ผู้เล่นตัวจริง: เรน่า, อาร์เบลัว, สเคอร์เทล, คาร์ราเกอร์, ออเรลิโอ, เบนายูน, อลอนโซ่, ริเอร่า, ตอร์เรส และ เค้าท์

อันดับที่ 1 บาร์เซโลน่า 1-2 ลิเวอร์พูล - 12 กุมภาพันธ์ 2007

     ถ้าคุณคิดว่าการคว่ำ มาดริด คาบ้านได้คือเรื่องที่เจ๋งมากแล้ว การบุกมาเผาเครื่องทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ที่มีผู้เล่นแบบ ลิโอเนล เมสซี่, โรนัลดินโญ่, เดโก้ และ ชาบี ถึงสนามคัมป์ นู มันจะสะใจยิ่งกว่าขนาดไหน
     ลูกทีมของ เบนิเตซ ไปเยือนในสภาพมวยรองชัดเจน เรีกยว่างานหินเลยในการผ่านด่าน 8 ทีมสุดท้าย เหนือยักษ์ใหญ่คาตาลันทีมนี้ เมื่อเริ่มต้น ด้วยประตูของ เดโก้ ที่โหม่งให้ทีมขึ้นนำในนาทีที่ 14 เรียกว่าเกมน่าจะจบแล้วด้วยซ้ำ
     มิดฟิลด์โปรตุเกสยังมีโอกาสอีกครั้ง แต่เรน่า ก็เซฟไว้ได้ รวมทั้งจาก ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า อีกเช่นกัน
     เคร็ก เบลลามี่ มีโอกาสบ้างจากการเขกลูกเปิดของ ฟินแนน ผ่านมือ บิคตอร์ บัลเดส เข้าไป ทำเอากองหน้าทีมชาติเวลส์ ดีใจสุดฤทธิ์ ด้วยการโชว์ท่าหวดไม้กอล์ฟ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องบาดหมางระหว่างเขากับ รีเซ่ ในช่วงฝึกซ้อม
     เจอร์ราร์ด และ เค้าท์ ต่างมีโอกาสพาทีมขึ้นนำ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ แต่แล้วก็เป็น รีเซ่ ที่ขโมยซีน ด้วยการยิงด้วยขวาในกรอบโทษ ขโมยผลการแข่งขันแบบสุดแสบ หักคอบาร์ซ่าคาบ้านไปเลย
     ถึงแม้ว่า นัดต่อมาเลกที่ 2 เราจะแพ้ไป 1-0 ที่ แอนฟิลด์ แต่ก็ยังเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ ด้วยกฎประตูทีมเยือน
     ว่ากันว่านี่คือ ชัยชนะเกมเยือนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของ ลิเวอร์พูล ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่ปี 1992 เลยก็ว่าได้

11 ผู้เล่นตัวจริง: เรน่า, อาร์เบลัว, คาร์ราเกอร์, แอกเกอร์, รีเซ่ ,ฟินแนน, ซิสโซโก้, อลอนโซ่, เจอร์ราร์ด, เบลลามี่, เค้าท์

     หวานเจี๊ยบกันไปเลยนะครับ สำหรับ 5 เกมที่ได้อ่านกัน ก็หวังว่า คืนนี้การออกไปเยือน บาเซิล คงจะได้มีผลงานแจ่มๆ มาฝากเป็นสถิติ แบบนี้บ้างนะครับ เอาใจช่วยกันต่อไป ชาวลิเวอร์พูล