ความเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

     ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ... สำหรับนัดแรกในศึก ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มของ ลิเวอร์พูล ในนัดนี้ต้องบอกเลยว่าดราม่าสุด ๆ เมื่อทัพ "หงส์แดง" เป็นฝ่ายออกนำไปก่อนจาก มาริโอ บาโลเตลลี่ ในนาทีที่ 81 หลังจากนั้นดูเหมือนว่าเราจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างเสร็จสรรพแต่จนแล้วจนรอดกลับโดนทีเด็ดทีมเยือนตามตีเสมอได้ในนาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา เดชะบุญที่เรายังได้จุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ไม่งั้นเกมในค่ำคืนนี้คงดูไม่จืดแน่

     ก่อนเกมต้องบอกก่อนเลยว่านัดนี้น่าจะเป็นงานง่ายสำหรับเจ้าถิ่น และยิ่งคู่แข่งเพิ่งจะเคยสัมผัสเกม แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรน่าจะทำให้บรรดาแฟน ๆ ต่างหมายมั่นปั้นมือที่จะรอชม "หงส์แดง" ขย้ำหมูในนัดนี้ แต่เมื่อเสียงนกหวีดเป่าเริ่มเกมการแข่งขัน ลูโดโกเร็ตส์ แชมป์จากบัลแกเรียทีมนี้กับเล่นได้อย่างดุดันไม่มีกลัวเจ้าถิ่นเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังปิดโอกาสเกมรุกของเราอย่างกะมีกองหลังระดับเวิลด์คลาสเลยทีเดียว

     ปัญหาของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ก็เหมือนกับเกมนัดที่ผ่านมา ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามมักจะลงไปตั้งรับลึกและปิดโอกาสในพื้นที่เข้าทำหน้ากรอบเขตโทษ หากมองตามแทคติก ลูโดโกเร็ตส์ มาในรูปแแบบที่ใกล้เคียงกับ แอสตัน วิลล่า คือลงไปตั้งรับลึกและรอส่วนกลับ แต่ทั้งสองทีมจะแตกต่างกันตรงที่ วิลล่า จะใช้ความเร็วโจมตีพื้นที่ด้านข้าง แต่ ลูโดโกเร็ตส์ จะเน้นจังหวะทะลุช่องในแดนกลางตามสไตล์บอลภาคพื้นยุโรปเสียมากกว่า

     ประตูแรกในเกมนี้ต้องบอกเลยว่าได้มาเพราะความสามารถเฉพาะตัวของ มาริโอ บาโลเตลลี่ ล้วน ๆ จากจังหวะที่เขารับบอลในกรอบเขตโทษ เชื่อเหลือเกินถ้าเป็นคนอื่นไม่มีทางใจเย็นถึงขนาดแต่งบอลและเล่นจังหวะนั้นอย่างกะบอลกีฬาสีเช่นนั้นหรอก(สถานการณ์กดดันเขาไม่ได้จริงๆ) จังหวะนี้ต้องยกให้เขาเลย!!

     ส่วนลูกที่ถูกตีเสมอต้องยกเครดิตให้ ลูโดโกเร็ตส์ พวกเขาศึกษาและทำการบ้านมาดี เพราะเขารู้ว่าจะมีพื้นที่ให้เล่นแน่เมื่อดักบอลจากในแดนกลางได้ จากการยืนไลน์ที่สูงของแผงหลังจะยิ่งเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งได้แทงทะลุช่องได้ง่ายขึ้นบวกกับความเฉียบขาดของ ดานี่ อาบาโร่ ช็อตนั้นต้องยอมเลยครับ แต่ยังดีที่เรามาได้จุดโทษจากความผิดพลาดของผู้รักษาประตูที่เพิ่งได้รับโอกาสลงสนามเพียงไม่กี่นัดที่ผ่านมา ไม่เช่นนั้นบรรยากาศหลังเกมในค่ำคืนนี้คงหม่นหมองน่าดูเลยทีเดียว