พรีวิว พรีเมียร์ลีก อาร์ซนอล -vs- ลิเวอร์พูล (22.00 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก อาร์ซนอล -vs- ลิเวอร์พูล

วันอาร์ทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2016 เวลา 22.00 น.

สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

ถ่ายทอดสด PPTV HD และ True beIN Sports 1

     ในที่สุดเกมเปิดพรีเมียร์ลีกที่ทุกคนรอคอยใกล้จะเริ่มเข้าไปทุกทีแล้ว ในวันนี้ ลิเวอร์พูล มีคิวเปิดหัวในศึกใหญ่กับ อาร์เซนอล ถึงรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ผลจะออกมาเป็นเช่นไรต้องรอติดตามชมกันครับ!!

สภาพทีมล่าสุด : อาร์เซนอล

     อาร์เซน เวนเกอร์ ถือว่ามีปัญหาอยู่พอสมควรในเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บและจะหมดสิทธิ์ใช้งาน กาเบรียล เปาลิสต้า, คาร์ล เจนกินสัน, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, แจ็ค วิลเชียร์ และ แดนนี่ เวลแบ็ค ในเกมนี้อย่างแน่นอน

     คาดว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงทีมโดยใช้ นาโช่ มอนเรอัล มายืนเซ็นเตอร์คู่กับ คาลั่ม แชมเบอร์ส และส่ง คีแรน กิ๊บบ์ส เป็นแบ็คซ้ายแทน ขณะที่มิดฟิลด์คู่กลางจะถอด ฟรานซิส โกเกอแล็ง ออกเป็นสำรองและใช้ โมฮาเหม็ด เอล เนนนี่ ประสานงานกับ กรานิต ชาก้า โดยเกมรุกจะปล่อยให้เป้นหน้าที่ของ อเล็กซิส ซานเชซ, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, อารอน แรมซี่ย์ และ อเล็กซ์ อิโวบี้

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     ส่วนทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ คาดว่าจะไม่สามารถใช้งาน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และ เจมส์ มิลเนอร์ ได้ในเกมนี้หลังมีอาการบาดเจ็บจากเกมปรี-ซีซั่นช่วง 2 เกมหลังสุด แต่ถึงกระนั้นพวกเขาจะได้ โจเอล มาติป กลับมาประจำการในตำแหน่งเซ็นเตอร์

     คาดว่าพวกเขาจะวาง โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ อดัม ลัลลานา เป็นกลุ่มแนวรุกตัวจริงในนัดนี้ โดยใช้ เอ็มเร่ ชาน จับคู่ร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในตำแหน่งมิดฟิลด์

คีย์แมน

อาร์เซนอล : อเล็กซิส ซานเชซ

     อเล็กซิส กลายเป็นตัวความหวังสูงสุดของ "เดอะ กูนเนอร์ส" อย่างปฎิเสธไม่ได้ในขณะสตาร์ร่วมทีมรายอื่น ๆ นั้นยังไม่พร้อมสำหรับการแข่งขันในเกมนี้ ถ้าจะหวังเก็บผลการแข่งขันที่ดีในเกมนี้สำเร็จ ก็ต้องลุ้นกับจังหวะเข้าทำและสร้างสรรค์เกมของแข้งยอดเยี่ยม โคปา ผู้นี้

ลิเวอร์พูล : ซาดิโอ มาเน่

     ซาดิโอ มาเน่ ดูจะสร้างความประทับใจได้ไม่น้อยตลอดทริปปรีซีซั่นโดยเฉพาะในนัดดวลกับ บาร์เซโลน่า และเกมนี้เชื่อว่า มาเน่ จะทำทำผลงานได้โดดเด่นอีกครั้ง ในขณะนี้ที่เจ้าถิ่นมีปัญหาหนักในตำแหน่งแผงหลังเชื่อว่า มาเน่ จะเป็นคีย์แมนสำคัญโดยเฉพาะในเรื่องความเร็วที่สาารถฉีกแนวรับได้อย่างง่ายดาย

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

อาร์เซน เวนเกอร์

     "ฤดูกาลนี้มันยากมากที่จะทำนายแล้วชี้ชัดกันเลยว่าใครคือตัวเต็ง คุณไม่สามารถตัด ลิเวอร์พูล ออกไปได้ ทีมอื่นก็เช่นกัน โดยส่วนตัวผม ผมเขื่อว่ามี 8-9 ทีม ที่พวกเขามีโอกาสจะคว้าแชมป์ได้"

เจอร์เก้น คล็อปป์

     "ผมจำได้เมื่อซีซั่นที่แล้ว เราชนะ เลสเตอร์ 1-0 ในบ้านของเรา ผมได้คุยกับ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ที่บาร์ของผู้จัดการทีม และบอกไปว่าไม่มีเหตุผลเลยที่ทำไม เลสเตอร์ จะคืดถึงแชมป์ไม่ได้?"

"ผมมั่นใจว่าอีก 19 ทีมที่เหลือก็ต้องการประสบความสำเร็จเช่นกัน ฉะนั้นผมจึงไม่อยากตั้งข้อจำกัด ผมอยากให้นักเตะเปิดใจและสู้เพื่อทุกสิ่ง เราจะสู้เพื่อทุกรางวัลแข่งขัน"

ฟอร์มการเล่น

     5 นัดที่ผ่านมา อาร์เซนอล ยังไม่แพ้ให้ใครแถมชนะถึง 4 จาก 5 นัด (ชนะ 4 เสมอ 1) ส่วน ลิเวอร์พูล 5 นัดหลังสุดในการอุ่นเครื่องพวกเขาเอาชนะไป 2 จาก 5 นัดหลัง (ชนะ 2 เสมอ 3)

ประวัติการพบกัน

     ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ได้ถึงครั้งเดียวเท่านั้น จาก 5 ครั้งที่ผ่านมา (แพ้ 5 เสมอ 4 ชนะ 1) และ บุกไปชนะถึงถิ่น เอมิเรต ได้เพียงหนเดียวเช่นกันตลอด 20 เกมหลังสุด นับตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2011 จนถึงปัจจุบัน (ชนะ 1 เสมอ 8 แพ้ 11)

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - เอ็คตอร์ เบเญริน, คาลั่ม แชมเบอร์ส, นาโช่ มอนเรอัล, คีแรน กิ๊บบ์ส - กรานิต ชาก้า, โมฮาเหม็ด เอล เนนนี่ - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, อารอน แรมซี่ย์, อเล็กซ์ อิโวบี้ - อเล็กซิส ซานเชซ

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์,โจเอล มาติป, แร็กน่าร์ คลาวาน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน - อดัม ลัลลานา,ซาดิโอ มาเน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่

ทรรศนะ Siamliverpool

     เกมนี้ดูเหมือนว่า อาร์เซนอล จะมีปัญหาหนักกว่า ลิเวอร์พูล พอสมควรในเรื่องของความพร้อมตัวผู้เล่น ขณะที่ ลิเวอร์พูล ดูจะมีตัวทดแทนและสามารถสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งได้ค่อนข้างลงตัวกว่าพอสมควร หากวัดในเรื่องทีเด็ดในแผงแนวรุกถือว่ามีดีไม่แพ้กันสำหรับเกมนี้ หากจะให้วัดในเรื่องของเกมรับ แลกหมัดกันทีต่อที ลิเวอร์พูล ดูจะได้เปรียบกว่า ชี้ชัดกันเลย!! วันนี้ "หงส์แดง" ของ เจอร์เก้น พร้อมรบกว่าสามารถเผด็จศึกได้ในท้ายที่สุดครับ!!

ฟันธง : ลิเวอร์พูล เบียด 2-1