หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (21.05น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (21.05น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (21.05น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2016 เวลา 21.05 น.

สนาม แอนฟิลด์

ผู้ตัดสิน มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก


     นัดที่ 22 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทัพ "หงส์แดง" จะได้ทำศึกแดงเดือดนัดสำคัญกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในถิ่น แอนฟิลด์ ซึ่งในเกมแรก ทัพ "ปีศาจแดง" เป็นฝ่ายเอาชนะไปก่อน 3-1 เกมนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะทวงแค้นทีมคู่ปรับเพื่อทำอันดับขึ้นไปแถวบนของตารางให้ได้

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

http://www.siamliverpool.com/images/gallery/0/211/

     เจอร์เก้น คล็อปป์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, เดยัน ลอฟเรน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดิว๊อค โอริกี้ และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เช่นเดิมในเกมนี้ และเป็นไปได้สูงที่ 3 ประสานในแดนหน้าจะยังเป็น อดัม ลัลลานา,จอร์ดอน ไอบ์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ เหมือนนัดที่ผ่านมา



สภาพทีมล่าสุด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

รวมภาพเกม นิวคาสเซิ่ล 3-3 แมนฯยูไนเต็ด

     ส่วนทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขายังคงไม่มี มาร์กอส โรโฮ, ลุค ชอว์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ ไมเคิ่ล คาร์ริค เหมือนเช่นเคย ซึ่งในเกมนี้พวกเขาน่าจะยึด 11 ตัวจริงเกมนัดที่ผ่านมาตามเดิม โดยมี เวย์น รูนี่ย์ เป็นหน้าเป้า และสามประสานในเกมรุกเป็น อันเดร เอร์เรร่า, อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล กับ เจสเซ่ ลินการ์ด

 

คีย์แมน

ลิเวอร์พูล : โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่

http://www.siamliverpool.com/images/gallery/0/211/

     ในยามไร้เงาของ คูตินโญ่ ดาวเตะตัวรุกอย่าง ฟีร์เมียโน่ กลับโชว์ผลงานขึ้นมาแทนที่ได้ถูกเวลาแบบพอเหมาะพอเจาะ เกมกับ อาร์เซนอล ดาวเตะค่าตัวแพงจัดการซัดไปถึง 2 แถมยังเกือบทำแฮทริกในนัดดังกล่าวได้อีกด้วย หากทีมเยือนเปิดโอกาสให้เขาแล้วล่ะก็ มีโอกาสสูงที่ ฟีร์เมียโน่ จะสำแดงเดชให้เห็นได้อีกนัด

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เวย์น รูนี่ย์

รวมภาพเกม นิวคาสเซิ่ล 3-3 แมนฯยูไนเต็ด

     เวย์น รูนี่ย์ โชว์ฟอร์มเด่นไม่แพ้กันจากนัดที่ผ่านมา แม้ท้ายที่สุดพวกเขาจะทำได้แค่เสมอกับ นิวคลาสเซิล จริงอยู่ที่สถิติการเยือนของ รูนี่ย์ ยังถิ่นแอนฟิลด์จะถึงขั้นย่ำแย่ จากการซัลโวได้เพียงประตูเดียวจาก 11 เกมที่มาเยือนในสีเสื้อ "ปีศาจแดง" แต่จากฟอร์มนัดที่ผ่านมา บอกเลยว่าประมาทไม่ได้แม้แต่นิดเดียว



วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์ :

http://www.siamliverpool.com/images/gallery/0/211/

     "คุณไม่สามารถเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด เพียงเพราะคุณวิ่งเป็นระยะทาง 145 ไมล์ คุณต้องทำให้ถูกวิธี และคุณต้องเล่นเกมรับให้ดี เพราะพวกเขามีนักเตะที่ยอดเยี่ยมอยู่ในทีมหลายคน กรณีนี้เรามีเวลาสองวัน และเราจะเตรียมตัว นั่นคือสิ่งที่เราพยายามทำอยู่"

หลุยส์ ฟาน กัล :

หลุยส์ ฟาน กัล : เราจะไม่ตกต่ำเหมือนลิเวอร์พูลแน่

     "ผมไม่สามารถจินตนาการได้ว่าสิ่งเหล่านี้มันจะเกิดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(พลาดแชมป์ลีก 26 ปี) ผมนึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นกับลิเวอร์พูล มันย่อมสามารถเกิดขึ้นกับยูไนเต็ดได้ แต่ก็อย่างที่ผมบอกนะแหละ ผมไม่สามารถจินตนาการได้เพราะเราอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงเเละอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง"

 

ฟอร์มการเล่น

     10 เกมหลังสุดของ ลิเวอร์พูล พวกเขาแพ้คู่แข่งเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น (ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 2) ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ไปถึง 4 เกม จาก 10 นัด (ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 4)

ประวัติการพบกัน

     แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ถึง 6 จาก 8 เกมลีกหลังสุดที่พบกัน และแพ้ให้ ลิเวอร์พูล เพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น

Probable starters in bold, contenders in light.

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม 

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, โคโล ตูเร่, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน, เจมส์ มิลเนอร์ - จอร์ดอน ไอบ์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, อดัม ลัลลานา

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - แอชลี่ย์ ยัง, คริส สมอลลิ่ง, ดาลี่ย์ บลินด์, มัตเตโอ ดาเมี่ยน - มารูยาน เฟลไลนี่, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน - เจสเซ่ ลินการ์ด, อันเดร เอร์เรร่า, อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล - เวย์น รูนี่ย์

ทรรศนะ Siamliverpool

     แม้การปะทะกันของศึกแดงเดือดในครั้งนี้ จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของทั้งสองทีมหากมองในเรื่องผลงานและอันดับในตารางแข่งขัน แต่ก็ยังเป็นแมตช์ที่ได้รับการจับจามองจากบรรดาแฟนบอลเหมือนเช่นเคย ทั้งคู่เสมอมาเหมือนกันจากเกมล่าสุด แต่ทัพ "หงส์แดง" อาจจะดูดีกว่านิด ๆ หากมองไปที่ผลงานกับเกมพบ อาร์เซนอล บวกกับเสียงเชียร์และการปลุกเร้าของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในถิ่น แอนฟิลด์ เชื่อว่าลึก ๆ พวกเขาจะเบียดคู่รักคู่แค้นและคว้า 3 แต้มได้สำเร็จ

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1

 

ADS