พรีวิว พรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิล -vs- ลิเวอร์พูล (23.00 น.)

พรีวิว พรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิล -vs- ลิเวอร์พูล

วันอาทิตย์ 6 ธันวาคม 2015 เวลา 23.00 น.

สนาม เซนต์ เจมส์ ปาร์ค

ถ่ายทอดสดช่อง Stadium 2(57)

 

     เกมลีกนัดที่ 15 ของ ลิเวอร์พูล พวกเขาต้องบุกไปเยือน "สาลิกาดง" ที่กำลังฟอร์มย่ำแย่ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะเก็บสามแต้มในเกมนี้ ยิ่งบรรดาทีมหัวแถวต่างพลาดให้แล้ว ยิ่งต้องคว้าโอกาสไว้ให้ได้!!

สภาพทีมล่าสุด : นิวคลาสเซิล

     สตีฟ แม็คคลาเรน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไมค์ วิลเลียมสัน และ จามาล ลาสเซลเลส ที่เพิ่งได้รับบาดเจ็บในช่วงที่ผ่านมา คาดว่า "บิ๊กแม็ค" จะลองปรับมาใช้แผน 3-5-2 เน้นเกมรับ โดยขยับ พอล ดัมเม็ตต์ เข้ามายืนเป็นเซ็นเตอร์ร่วมกับ ชานเซล เอ็มเบมบา และ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ ในขณะที่ ฟลอร็อง โตแว็ง ตัวริมเส้นเลือดฝรั่งเศสจะได้รับโอกาสลงเล่นเป็นวิงแบ็คซ้าย

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ สามารถใช้งาน ลูคัส เลว่า ที่เพิ่งพ้นโทษแบนกับมาอีกครั้ง แต่ขณะเดียวกัน เอ็มเร่ ชาน จะหมดโอกาสลงเล่นเพราะสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ ส่วนในรายของ คูตินโญ่ จะไม่ได้เดินทางไปกลับทีมด้วยเพราะ คล็อปป์ ต้องการให้เขาพักรักษาอาการบาดเจ็บและพร้อมที่สุดในสัปดาห์หน้า

 

คีย์แมน

นิวคาสเซิล : อโยเซ่ เปเรซ

     ท่ามกลางความตกต่ำของทัพ "สาลิกาดง" ศูนย์หน้าดาวรุ่งอย่าง เปเรซ กลับโชว์ฟอร์มได้เข้าตาอยู่ไม่น้อย จากการยิงประตูช่วยทีมไป 3 ลูก จากการสร้างโอกาส 12 ครั้ง ถ้าจะมีนักเตะที่น่าจะสร้างความหวั่นเกรงให้ ลิเวอร์พูล ได้ เห็นจะมีแต่นักเตะชาวสเปนคนนี้เท่านั้น

ลิเวอร์พูล : แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

     หลังสลัดอาการบาดเจ็บลงสนามได้ไม่นาน สเตอร์ริดจ์ ก็ได้สำแดงเดชความเป็นเพชรฆาตให้ได้เห็นขึ้นมาทันที ถ้าเกมนี้เขาได้โอกาสลงเป็นตัวจริงตามคาดโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะยิงประตูออกนำเจ้าถิ่นเพื่อปิดเกมมีสูงเลย

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทีม

สตีฟ แม็คคลาเรน

     "สิ่งที่ ดอร์ทมุนด์ มีนั้น ผมพอจะมองเห็นว่ามันกำลังมาสู่ ลิเวอร์พูล และพวกเขาก็ทำออกมาให้เห็นเมื่อคืนวันพุธ พวกเขามีผู้เล่นคุณภาพที่ทำงานอย่างหนัก คล็อปป์ ทำผลงานได้เยี่ยมมาก"

     "ผู้เล่นของเรารู้ดีว่าฟอร์มที่ดี และ 3 แต้มจะทำให้เราได้กลับมา เมื่อความมั่นใจกลับคืนมา เรายังมีผู้เล่นชั้นดี, เปี่ยมพรสวรรค์ และดาวรุ่ง"

     "สิ่งที่คุณหวังและสิ่งที่คุณมองหาก็คือฟอร์มการเล่นบนเกมข้างหน้า ผลการแข่งขันข้างหน้านี้ที่จะทำให้เราสู่ฤดูกาล และคืนวันอาทิตย์นี้ก็เป็นโอกาสที่เราจะได้ทำเช่นนั้น"

 

เจอร์เก้น คล็อปป์

     "ด้วยความสัตย์จริง เราหวังคว้าชัยชนะอยู่เสมอ เรายังคงคิดแบบนั้นในเกมนี้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ความเคารพ"

     "การเตรียมพร้อมก่อนเกมจะเริ่ม คุณต้องรู้ให้มากที่สุดเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันเพราะทุกสิ่งทุกอย่าง สามารถนำมาเป็นแรงกระตุ้นได้"

     "เราไม่อาจปล่อยให้มันเริ่มต้นเกมเหมือนที่เราทำ เซาธ์แธมป์ตัน, เชลซี และ คริสตัล พาเลซ ได้"

 

 

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

14/04/15 ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0
01/11/14 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
11/05/14 ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1
19/10/13 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2
28/04/13 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 0-6
04/11/12 ลิเวอร์พูล เสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-1
01/04/12 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0
31/12/11 ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-1
01/05/11 ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-0
12/12/10 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1

 

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
28/11/15 แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-5 (เยือน)
21/11/15 แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-3 (เหย้า)
07/11/15 ชนะ บอร์นมัธ 1-0 (เยือน)
31/10/15 เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 0-0 (เหย้า)
25/10/15 แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-3 (เยือน)

ลิเวอร์พูล
03/12/15 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 6-1 (เยือน-ลีก คัพ)
30/11/15 ชนะ สวอนซี ซิตี้ 1-0 (เหย้า)
27/11/15 ชนะ บอร์กโดซ์ 2-1 (เหย้า-ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก)
22/11/15 ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 (เยือน)
08/11/15 แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-2 (เหย้า)

 

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (3-5-2) : ร็อบ เอลเลียต - ชานเซล เอ็มเบมบา, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่, พอล ดัมเม็ตต์ - ดารีล ยานมาต, มุสซ่า ซิสโซโก้, วูร์นอน อนิต้า, จอร์จินิโอ ไวจ์นาลดุม, ฟลอร็อง โตแว็ง - เซียม เดอ ย็อง, อโยเซ่ เปเรซ

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - เจมส์ มิลเนอร์, ลูคัส เลว่า, อดัม ลัลลานา - โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, คริสติย็อง เบนเตเก้, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

 

ทรรศนะ Siamliverpool

     ทัพ "เดอะ เร้ดส์" กำลังเข้าฝักแบบสุด ๆ โดยเฉพาะเกมเยือนที่ผ่านมาพวกเขาเก็บชัยรวด 4 นัด แถมกดไปแล้ว 14 เม็ด ขนาดคู่แข่งอย่าง เชลซี หรือ แมนฯ ซิตี้ ยังโดนเราสอยมาแล้ว มีหรือจะพลาดให้ทีมกำลังย่ำแย่อย่าง นิวคาสเซิล เกมนี้ "หงส์" วินใส ๆ ครับ

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0