ประวัติผู้เล่นที่น่าสนใจ ออล-สตาร์ ทีม เจอร์ราร์ด VS ทีม คาร์ราเกอร์ (21.00 น.)
ประวัติผู้เล่นที่น่าสนใจ ออล-สตาร์ ทีม เจอร์ราร์ด -vs- ทีม คาร์ราเกอร์
เดิร์ค เค้าท์
ดาวยิงดัตช์แมนได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากแฟน ลิเวอร์พูล ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่มีวันหมดแรงและยิงประตูสำคัญๆ ได้บ่อย โดยเฉพาะในบอลถ้วย อย่างการยิง เอซี มิลาน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ที่สุดของ เค้าท์: ผลงานที่ฝากไว้ในกระโหลกของเดอะค็อปทุกคน คงไม่พ้นการกระหน่ำแฮ็ททริคใส่ แมน ยูไนเต็ด โดยที่ หลุยส์ ซัวเรซ ใส่พานให้ทั้งหมด แต่เกมนั้นต้องยกให้ เค้าท์ ที่วิ่งไล่ตลอดทั้งเกมนอกเหนือไปจากการทำประตูดังกล่าว
หลุยส์ การ์เซีย
หนุ่มสเปนร่างเล็กผู้ย้ายมาจาก บาร์เซโลน่า ที่สร้างความมีชีวิตชีวาให้แฟน ลิเวอร์พูล เห็นตัวจิ๋วๆ แบบนี้ แต่เรื่องทำประตูตรงข้ามรูปร่างไปเลย คุณยังจำประตูซัลโว 40 หลาที่ซัดใส่ ยูเวนตุส ได้หรือไม่? หรือลูกที่ชิพสุดสวยใส่ เอฟเวอร์ตัน ยังไม่รวมประตูชัยที่พาทีมชนะเหนือ อาร์เซน่อล อีกละ การ์เซีย นี่แหละโคตรแมตช์วินเนอร์ของจริง
ที่สุดของ การ์เซีย: ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่สุดของความเจ็บแสบของ เชลซี ก็ต้องยกให้ลูกยิงประตูผีที่ไม่มีใครยืนยันได้ว่า การ์เซีย ยิงข้ามเส้นแล้วหรือยัง แต่ที่แน่ๆ เชลซี ต้องน้ำตาร่วงเพราะถูกถีบตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศนั่นเองในปี 2005
เฟร์นานโด ตอร์เรส
สมัยที่รุ่งโรจน์ไม่มีเดอะค็อปคนไหนที่ไม่เคยแหกปากเชียร์เขาในทุกๆ เกม เขาเข้ามาอยู่ในหัวใจของแฟนๆ ได้ไม่ยาก จากผลงานการถล่มประตูแหลกลาญ ในสีเสื้อหงส์แดง และนี่จะเป็นครั้งแรกที่ ตอร์เรส จะได้กลับมาสวมเสื้อแดงเพลิงให้สะใจแฟนๆ อีกครั้ง
ที่สุดของ ตอร์เรส: จังหวะทำประตูใส่ แมน ยูไนเต็ด ที่ล่อหลอก เนมานย่า วิดิช จนหลังหัก นี่ละโคตรสะใจ จนพาทีมถล่มปีศาจแดงไปถึง 4-1 คา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เกมนี้ละครับที่ใครๆ ก็บอกว่าเอาไปเลย 10 ดาวสำหรับ ตอร์เรส
เปเป้ เรน่า
หนึ่งในดาวเตะต่างชาติไม่กี่คนที่แฟนๆ จะยอมรับในตัวเขามากขนาดนี้ นายทวารสเปนจัดว่าเป็นที่รักของเดอะค็อปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เรน่า ลงเฝ้าเสาไปมากมายถึง 400 นัด ตลอด 8 ฤดูกาล และถูกขนานนามว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดถัดจาก เรย์ คลีเมนซ์ เลยทีเดียว
ที่สุดของ เรน่า: เขากลับเข้ามาสู่เกมของตัวเองได้ หลังผิดพลาดเสียประตูให้ มาร์ลอน แฮร์วู้ด ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ก่อนที่จะเป็นโชว์เซฟลูกโทษให้ทีมคว้าแชมป์ได้ในที่สุด
เคร็ก เบลลามี่
จอมดีเดือดชาวเวลส์รายนี้เคยมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ถึง 2 ครั้ง 2 ครา และก็สร้างความประทับใจได้เสมอ โดยเฉพาะผลงานการเล่นรอบ 2 ของเขาที่เคยฉีกแนวรับ เชลซี เป็นชิ้นๆ ในเกม ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ และการโยนบอลไปให้ แอนดี้ แคร์โรว์ ทำประตูชัยที่น่าจดจำเหนือ เอฟเวอร์ตัน ใน เอฟเอ คัพ
ที่สุดของ เบลลามี่: ประตูสุดยอดของเขา มีเพียงหนึ่งเดียวคือประตูที่ยิงใส่ บาร์เซโลน่า ถึง คัมป์ นู พร้อมท่าดีใจโชว์วงสวิงไม้กอล์ฟอันเลื่องลือ
ชาบี อลอนโซ่
หนึ่งในเพลย์เมกเกอร์สุดคลาสสิคของ แอนฟิลด์ ในยุคของ ราฟา เบนิเตซ ด้วยท่วงท่าที่สง่างาม การผ่านบอลที่แม่นยำชนิดว่าไกลแค่ไหนก็เข้าเป้าเพื่อนเสมอ ผนวกกับการคุมเกมรับที่เชื่องช้าแต่หนักหน่วง จนในวัยที่ผ่านหลัก 30 แล้วก็ยังทำผลงานได้ดีให้กับ เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค ตามลำดับ
ที่สุดของ อลอนโซ่: ลูกแรกเลยก็ต้องประตูจรวดมิสไซล์ระยะเกินครึ่งสนามที่ซัดใส่ นิวคาสเซิล และ ลูตัน ทาวน์ จนโกล์สองทีมนี้ถึงกับมึนตึ้บ แต่ถ้าเอาที่สุดของที่สุดมันก็ต้องลูกโทษที่ซัดตีเสมอ เอซี มิลาน 3-3 ในเกมอภินิหารตำนานอิสตันบูล ที่สุดของความเสียวไส้ เพราะจังหวะแรกเขายิงติดเซฟ ดีด้า แต่ก็ยังไวพอที่จะซ้ำเสยคานเข้าไป ชนิดใจจะวายทั้งสนาม
หลุยส์ ซัวเรซ
แม้จะไม่ได้อยู่โยงกับทีมนานเท่าตำนานคนอื่นๆ อย่าง เคนนี่ ดัลกลิช หรือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่ดาวยิงฟันจอบระดับโลกคนนี้ก็ไมได้ห่างไปจาก 2 คนดังกล่าว กองหน้าอุรุกวัยเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ในการลีลาล่าตาข่าย พรทั้งพรนรกที่ทำให้เขาพร้อมเล่นนอกเกมได้เสมอ เมื่อเขาต้องการจะทำ !
ที่สุดของ ซัวเรซ: คนส่วนใหญ่มักนึกถึงประตูที่เขาอัดใส่ เอฟเวอร์ตัน ในดาร์บี้ แมตช์ แต่ของแท้มันต้องชุดลูกยิงสุดอัจฉริยะที่เขาเคยลั่น นอริช ซิตี้ ไปถึง 4 ลูกแบบสุดยอดจริงๆ ทั้งทิศทางและการเข้าทำ
เจมี่ คาร์ราเกอร์
คาร์ร่า เด็กปั้นจอมทุ่มเทของทีมเยาวชน ลิเวอร์พูล ที่ลงสนามคุมแผงหลังให้ทีมเป็นสถิติมหัศจรรย์ที่จำนวน 737 เกม แถมเป็นหนึ่งในไม่กี่คนบนโลกนี้ที่จะยืนหยัดภักดีในการเล่นให้เพียงสโมสรเดียวตลอดชีวิต
ที่สุดของ คาร์ราเกอร์: ผลงานการถวายชีพสกัดบอลแบบเป็นบ้าเป็นหลังในเกมกับ เอซี มิลาน ที่ อิสตันบูล ใครที่ได้ดูเกมนั้นคงต้องสดุดีความกล้าหาญของเขา ที่ทั้งวิ่งไล่ประกบ สกัด แถมยังใช้ร่างกายเขารับลูกยิงคู่แข่งนับไม่ถ้วนจนสะบักสะบอม จนสามารถหยุดยั้งให้เกมของ ลิเวอร์พูล กลับมาได้ในครึ่งหลังของนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005
ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่
แบ็กซ้ายผู้พิสูจน์ตัวมามาก ไม่ว่าจะเล่นปีกหรือแบ็กตลอด 7 ปีในถิ่น แอนฟิลด์ เขาเป็นที่จดจำในฐานะกองหลังเท้าหนักที่มีลูกยิงอันหนักหน่วงสุดเฮฟวี่ไม่ต่างไปจากค้อนอันทรงพลังของเทพเจ้าธอร์ก็ว่าได้
ที่สุดของ รีเซ่: นึกถึง รีเซ่ ก็ต้องนึกถึง ฟรีคิกสุดโหดร้ายที่เขาอัดใส่ ฟาเบียง บาร์กเตซ พุ่งเสียบคานชนิดไม่ต้องคิดแม้แต่จะปัด ด้วยความเร็วระดับ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มนุษย์ที่ไหนจะไปรับได้เล่า??
อัลบาโร่ อาร์เบลัว
แบ็คอเนกประสงค์ที่เล่นได้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ในยุคของ ราฟา เบนิเตซ เขาคือคนที่บอสหน้าหนวดไว้ใจมาก แถมบางทียังสามารถมาเล่นเซนเตอร์แบ็กร่วมกับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ก็ได้อีกด้วย ซึ่งเคยปรากฎมาแล้วในนัดที่พบ เวสต์บนอมวิช อัลเบี้ยน เมื่อพฤษภาคม 2009
ที่สุดของ อาร์เบลัว: การไล่ตามประกบ ลิโอเนล เมสซี่ ตัวอันตรายของ บาร์ซ่า จนหายเงียบไปจากเกมตลอด 90 นาที คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมโค่นทีมจากต่างดาวได้ราบคาบถึ่งถิ่นของพวกเขา
แฮร์รี่ คีเวลส์
ดาวเตะแดนจิงโจ้เข้ามาร่วมทีม ลิเวอร์พูล บนความคาดหวังมหาศาลจากผลงานสมัยเล่นให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด แต่กลับเล่นไม่ได้อย่างที่ใครๆ อยากจะเห็น เขาเคยลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศ 2 นัด แต่ก็ต้องเจ็บจนโดนเปลี่ยนตัวทั้ง 2 เกม แต่กระนั้นก็เคยยิง เอฟเวอร์ตัน ได้ถึง 2 ครั้ง รวมไปถึงประตูสุดสวยในเกมพบ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส
ที่สุดของ คีเวลส์: ประตูลูกวอลเลย์ที่ยิงใส่ทีมไก่เดือยทองก็ว่างามแล้ว แต่ลูกยิงไกลในเกมที่ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1 ที่ แอนฟิลด์ มันเหนือชั้นอย่าบอกใครเลย
เจย์ สเพียริ่ง
มิดฟิลด์มะขามข้อเดียวโชว์ผลงานทะลุขึ้นมาแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ในปี 2009 และก็เป็นที่ชื่นชอบของ เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือในขณะนั้น และก็ทำให้ได้โอกาสลงสนามไปถึง 25 นัด ในซีซั่น 2011-12 แม้ว่าจะหลุดเกม เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ไปก็ตาม
ที่สุดของ สเพียริ่ง: เกมประเดิมนัดแรกให้หงส์แดง คือการถูกส่งเป็นสำรองในการเจอทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด เกมนั้นอาจไม่มีอะไรให้พูดถึงสำหรับตัวเขา แต่แฟนบอลก็ส่งเสียงเชียร์เขาอย่างภาคภูมิใจ ในฐานะเด็กปั้นของแท้ที่เป็นคนเมืองลิเวอร์พูลโดยกำเนิด
มาร์ติน เคลลี่
กองหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษเพิ่งย้ายหนีไปอยู่กับ คริสตัล พาเลซ เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว และตอนนี้ก็ลงหลักปักฐานเป็นตัวจริงในถิ่น เซลเฮิร์ส พาร์ค ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา พร้อมกับทำงานกุนซือถึง 3 คน
ที่สุดของ เคลลี่: อาการบาดเจ็บที่คอยรบกวนเขาบ่อยๆ ทำให้ เคลลี่ ไม่ค่อยมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองในถิ่น แอนฟิลด์ มากนัก จนกลายเป็นว่าพัฒนาการในการเล่นให้ทีมชุดใหญ่ต้องหยุดไปในที่สุด
ไรอัน บาเบิล
คนนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เจ้าของฉายา นิว อองรี ซึ่งเคยติดทีมชาติฮอลแลนด์และถูกจับตามองว่าจะเป็นดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุดคนหนึ่งของโลก หลังย้ายจาก อาแจ็กซ์ ในราคา 11.5 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2007 แต่น่าเสียดายว่าเขาไม่เคยทำได้ดีพอเสียทีในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล
ที่สุดของ บาเบิล: เกมที่ทีมต้องโคจรมาเจอ อาร์เซน่อล ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก จัดว่าเป็นเกมที่ บาเบิล ทำผลงานได้เข้าตามากที่สุด หลังแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงในประตูที่ 3 พร้อมจัดแจงยิงประตูที่ 4 ด้วยตัวเองให้ทีมชนะขาดลอย
ราอูล ไมย์เรเลส
เจ้าของทรงผมสุดแปลกตา แถมเปลี่ยนทรงผมไม่เคยซ้ำ แต่ผลงานในชุด ลิเวอร์พูล จัดว่าน่าล้มเหลวมาก ทำนองชั่วไม่มีดีไม่ปรากฎ ช่วงเวลาที่เข้าค้าแข้งให้ที่นี่ดูจะเป็นความยากลำบากแสนสาหัสในการพิสูจน์ตัวเองของเขามาโดยตลอด
ที่สุดของ ไมย์เรเลส: ลูกยิงสุดอัศจรรย์ที่กระหน่ำใส่ทีมต่ำชั้นอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน ถือเป็นประตูส่งเข้าประกวดได้เลยในความสวยงามและเฉียบคม
จอนโจ้ เชลวี่ย์:
อดีตเด็กฝึกหัดของ ชาร์ลตัน แอธเลติก ย้ายมาอยู่กับหงส์แดงด้วยวัย 18 ปี แต่เขาก็ไม่เคยได้โชว์ความสุดยอดออกมาเสียทีในสนาม แอนฟิลด์ แม้จะถูกชื่นชมว่ามีความครบเครื่องและทักษะที่หาได้ยากจากนักเตะอังกฤษก็ตาม
ที่สุดของ เชลวี่ย์: เรื่องดีๆ ไม่ค่อยจะมี มีก็แต่ผลงานร้ายๆ ที่เคยไปมีปากมีเสียงกับ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของ แมน ยูไนเต็ด จนตัวเองต้องโดนไล่ออก กลายเป็นข่าวใหญ่ทางหน้าหนังสือพิมพ์อยู่พักหนึ่ง
ชาร์ลี อดัม
ด้วยความที่เป็นคนสก๊อตแลนด์ด้วยกันกับ เคนนี่ ดัลกลิช ก็เลยโดนดูดตัวมาปั้นเกมใน แอนฟิลด์ เมื่อปี 2011 หลังจากหนีจากทีมตกชั้นอย่าง แบล็คพูล แต่ก็เป็นได้แค่ของปลอมเพราะสไตล์การเล่นที่อืดอาดเชื่องช้า เลยถูก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่เข้ามาคุมทีมในภายหลังโละทิ้งไปให้ สโต๊ค ซิตี้ ในปีต่อมา
ที่สุดของ อดัม: นึกอยู่นานเหมือนกันว่า อดัม มีอะไรดีๆ บ้างไหม เท่าที่จำได้ก็แค่ประตูจาก 2 ลูกที่เขาฝากไว้ให้ ลิเวอร์พูล ในเกมชนะ โบลตัน ในบ้านแค่นั้นเอง
สจ๊วต ดาวนิ่ง
ดาวนิ่ง ถูกซื้อตัวมาจาก แอสตัน วิลล่า ด้วยราคาโคตรแพงถึง 20 ล้านปอนด์ แต่กลับเล่นได้อย่างล้มเหลวหาชิ้นดีไม่ได้ แถมยังเคยโดนย้ายไปเล่นแบ็กซ้ายจนเสียผู้เสียคนให้กับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในฤดูกาล 2012 -13 ท้ายที่สุดก็ฟอร์มตกถาวร และต้องย้ายไปอยู่กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในปี 2013 จนถึงปัจจุบัน
ที่สุดของ ดาวนิ่ง: ประตูตีเสมอ สเปอร์ส อันน่าตื่นตาตื่นใจที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ในฤดูกาลแรกที่ ร็อดเจอร์ส คุมทีม