วิเคราะห์ มาร์ติน สเคอร์เทล พี่ใหญ่แห่งระบบแบ็คทรี
หลังจากสื่ออังกฤษหลายสำนักเทคะแนนให้ มาร์ติน สเคอร์เทล พี่ปลาคาร์ฟ สโลวาเกีย ของเราเป็น แมนออฟเดอะแมตช์ จากเกมที่บุกไปคว่ำ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น มีการวิเคราะห์ว่าระบบใหม่ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่หันมาใช้กองหลัง 3 คน หรือแบ็คทรีนั้นส่งผลต่อฟอร์มของเขาอย่างแท้จริง
ในเกมลีก 11 นัดหลังสุด ตั้งแต่เปลี่ยนมาเล่น 3-4-2-1 ลิเวอร์พูล ไม่เสียประตูไปถึง 6 นัด และเสียไปแค่ 10 ประตู เฉลี่ยนัดละลูกเท่านั้น มีเพียงเกมที่เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ ในบ้านเมื่อตอนปีใหม่ที่เสียมากกว่า 1
รอบตัว สเคอร์เทล มี เอ็มเร่ ชาน, และ มามาดู ซาโก้ ที่คอยช่วยดูแลเกมรับร่วมกัน ยิงช่วยกันส่งเสริมให้กองหลังสโลวักคนนี้ยิ่งฟอร์มดีต่อเนื่อง จุดเด่นของเขาคือร่างกายที่พร้อมปะทะคู่แข่งแบบถึงพริกถึงขิง ส่วน ชาน ก็มีความฟิตและพละกำลัง สามารถต่อบอลไปในแดนกลางได้ ขณะที่ ซาโก้ ก็รัดกุมและมีความเป็นผู้นำชัดเจน
แต่ล่าสุด ซาโก้ ก็ดันมาเจ็บจากเกมนัดที่แล้ว ดังนั้น ลิเวอร์พูล จึงจำเป็นต้องหาคนมาแทนที่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น เดยัน ลอฟเรน แบ็คอัพราคาแพงของเรา
เกมที่ เซนต์ แมรี่ส์ สเคอร์เทล โชว์ผลงานขั้นสุดยอดในการดวลตัวต่อตัวกับ กราเซียโน่ เปลเล่ ได้อยู่หมัด จากประสบการณ์ที่เจนจัดบนเวที พรีเมียร์ลีก มายาวนาน เชื่อหรือไม่ว่า เปลเล่ ได้จับบอลแค่ 29 ครั้งในเกมนี้ และไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบเลยสักครั้ง ต้องยกเครดิตให้พี่ปลาคาร์ฟจริงๆ ณ นาทีนี้
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รองกัปตันยังอดชมเขาไม่ได้ถึงกับเอ่ยปากหลังเกมว่า "เขาทำได้เยี่ยมอีกครั้ง และสมควรแล้วในการได้รับเลือกเป็น แมน ออฟ เดอะแมตช์"
ทีมงานสยาม ลิเวอร์พูล เชื่อเหลือเกินว่าระบบแบ็คทรีที่สร้างโดย ร็อดเจอร์ส ในตอนนี้ที่ทำให้ทีมไม่เสียประตูต่อเนื่อง จะพาทีมประสบความสำเร็จในบอลถ้วยรายการที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน