หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / เฮนโด้ เผยไม่ต้องการแรงจูงใจใดๆอีกแล้วในการลุยนัดชิงชปล.

เฮนโด้ เผยไม่ต้องการแรงจูงใจใดๆอีกแล้วในการลุยนัดชิงชปล.

เฮนโด้ เผยไม่ต้องการแรงจูงใจใดๆอีกแล้วในการลุยนัดชิงชปล.

          จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมลิเวอร์พูล ยืนยันว่าเขาไม่ต้องการแรงจูงใจใดๆ เพิ่มเติมอีกแล้ว เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกกับเรอัล มาดริด ในคืนวันเสาร์นี้

          โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เพื่อนร่วมทีมที่ร่วมงานแถลงข่าวกับ เฮนโด้ ในงานแถลงข่าวของสโมสรก่อนเกมวันเสาร์ที่สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ได้พูดถึงภารกิจแก้แค้น เรอัล มาดริด หลังจากที่ "หงส์แดง" พ่ายแพ้พวกเขาในรอบชิงชนะเลิศปี 2018 ที่กรุงเคียฟ .

          นั่นอาจเป็นความทรงจำส่วนตัวมากไปหน่อยสำหรับสตาร์ทีมชาติอียิปต์ซึ่งต้องถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจากได้รับบาดเจ็บที่ไหล่หลังจากเล่นไปเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น และสุดท้าย ลิเวอร์พูล แพ้ในเกมนั้น 1-3 แต่ปีต่อมาพวกเขาก็กลับมาเอาชนะท็อตแนมในมาดริด ไป 2-0 คว้าแชมยุโรปสมัยที่ 6 ได้สำเร็จ

          เฮนเดอร์สัน พูดถึงความคิดเรื่องการ 'แก้แค้น' ของซาลาห์แบบติดตลกว่า "เขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดอย่างนั้นจริงๆใช่ไหม โม?"

          "ผมเข้าใจดีจากมุมมองของโม มันเป็นช่วงเวลาที่สะเทือนอารมณ์มากๆ มันยากมากๆสำหรับเขา และยากสำหรับทุกคน"

          "แต่สำหรับผม คุณไม่จำเป็นต้องมีแรงจูงใจใดๆเพิ่มเติมอีกต่อไปเพื่อคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก"

          "มันคือทั้งหมดที่คุณใฝ่ฝันถึงเมื่อตอนคุณเป็นเด็ก ที่จะได้ลงเล่นเกมใหญ่ และพวกเขาก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่ารอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขา (เรอัล มาดริด) เป็นทีมระดับโลก และมีผู้เล่นระดับโลกหลายคนในทีม"

          "ผมจะบอกว่าการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกที่มาดริด(ปี2019) น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพของผม พิเศษที่สุด ในการก้าวข้ามเส้นนั้นเพื่อไปคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกในที่สุด หลังจากที่เข้าใกล้มากๆเมื่อปีก่อนหน้านั้น"

          "มันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอารมณ์จริงๆ สำหรับผม แน่นอนผมจะทำให้มันเป็นที่หนึ่งในสิ่งที่พิเศษที่สุดในอาชีพของผม"

          "(ปี2018) เป็นจุดที่ต่ำมากในอาชีพการงานของผม การเข้าใกล้ความฝันของคุณมากๆและจากนั้นก็ถูกพรากไปจากอุปสรรคในนัดสุดท้ายนั้นค่อนข้างทำใจได้ยาก"

          "แต่เมื่อลองมองย้อนกลับไป ผมได้เรียนรู้มากมาย และเราใช้ประสบการณ์นั้นให้ดีขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และคว้าชัยชนะได้ในปีต่อมา ทำให้มันพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก"

          "คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าโอกาสสุดท้ายที่จะได้เล่นนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกนั้นคือเมื่อไหร่ นั่นคือเหตุผลที่โอกาสต่อไปนี้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และโอกาสนี้ในวันเสาร์นั้นยิ่งใหญ่มากๆ"

          "มันเป็นทุกอย่างสำหรับเรา และนั่นคือเหตุผลที่เราจะทุ่มให้มันทุกอย่างเช่นกัน"

          "สิ่งต่างๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วในวงการฟุตบอล แต่เราทำงานร่วมกันมาเป็นเวลานาน ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมาหลายปี พวกเขา(การเข้ารอบชิงชนะเลิศ)เกิดขึ้นไม่บ่อยนัด และเมื่อคุณได้ลงเล่นแล้ว คุณต้องพร้อม"

ADS