24. โจ อัลเลน

โจ อัลเลน
ชื่อ : โจ อัลเลน
สัญชาติ : เวลส์
วันเกิด : 14 มีนาคม 1990
ตำแหน่ง : กองกลาง
ลงเล่น : 48 นัด
ยิงประตู : 2 ประตู
เท้าที่ถนัด : เท้าขวา
ย้ายร่วมทีม : 10 สิงหาคม 2012
นัดแรก : 18 สิงหาคม 2012

ประวัติส่วนตัว "โจ อัลเลน"

       โจเซฟ ไมเคิ่ล อัลเลน เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ปี 1990 ที่เมือง คาร์มาเธ่น ในเวลส์ ก่อนจะเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่นอย่างเท็นบี้ เมื่ออายุได้ 9 ขวบ สวอนซีก็เห็นความสามารถของเขา และดึงไปร่วมทีมเยาวชนที่ลิเบอร์ตี้สเตเดียม จากนั้น อัลเลน ก็ยิงยาวในยูนิฟอร์ม "หงส์ขาว" มาตลอด

       กระทั่งในฤดูกาล 2006-07 มิดฟิลด์ร่างเล็ก มีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองในทีมสวอนซีชุดใหญ่ ทั้งที่มีอายุเพียง 16 ปี ทว่าเจ้าตัวไม่ถูกส่งลงสนามแต่อย่างใดในเกมเอฟเอ คัพ ซึ่งไล่ถล่มเชฟฯ ยูไนเต็ด 3-0 อย่างไรก็ตามภายใต้การกุมบังเหียนของ เคนนี่ แจ็คเกตต์ ด้าน อัลเลน ได้มีโอกาสวาดลวดลายสมใจ ในเกม เอฟเอดับเบิ้ลยู พรีเมียร์ คัพ ซึ่งบุกไปเยือนพอร์ท ทัลบ็อต ทาวน์ คู่แข่งจากเวลส์ โดย โจ อัลเลน ได้ลงเล่นราว 45 นาที ก่อนที่ "หงส์ขาว" จะพ่ายไป 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

       อัลเลน มีโอกาสลงสนามเกมลีกเป็นครั้งแรกในฐานะตัวสำรองเจอกับแบล็คพูลนัดปิดฤดูกาล 2006-07 ซึ่งจบเกมด้วยชัยชนะ 6-3 หลังจากซัมเมอร์นั้น อัลเลนในวัย 17 ปี กลับมาเตรียมตัวเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ และเขาก็แสดงผลงานยอดเยี่ยมในเกมเจอกับวอลซอลล์ใน ลีก คัพ พร้อมกับยิงประตูแรกให้กับตนเองได้กับทีมชุดใหญ่

       โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมสวอนซี ในช่วงเวลานั้น ตบรางวัล ด้วยการต่อสัญญา อัลเลน ออกไป อย่างไรก็ตามเดือนตุลาคม 2008-09 สวอนซี ตัดสินใจปล่อยอัลเลน ให้กับเร็กซ์แฮม ไปใช้งานเป็นเวลา 1 เดือน และเจ้าตัวก็เปิดตัวกับทีมใหม่ได้สวย ด้วยการยิงไกล 25 หลาเข้าไป แต่อาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่าทำให้เขาลงเล่นได้แค่ 2 นัดเท่านั้น

       เมื่อกลับมาที่สวอนซีเพื่อฟื้นฟูร่างกาย เขาก็หายเจ็บกลับมาได้อีกครั้งในเดือนธันวาคมนัดเจอกับ บาร์นสลีย์ โดยอัลเลน ลงไปแทน เฟอร์รี่ บอดดี้ ซึ่งได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ทีมตามอยู่ 0-2 ซึ่งเขาได้รับการชื่นชมจาก มาร์ติเนซเป็นอย่างมากว่าเป็นแรงบันดาลใจในการแข่งในแมทช์นั้นเลยก็ว่าได้ ซึ่งจอมทัพร่างบาง เป็นคนช่วยให้ทีมกลับมาตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ หลังจากลงเล่นไปได้ 25 นาที และได้รับผู้เล่นยอดเยี่ยมในเกมนั้นด้วย

       ในปี 2009 สวอนซีรั้งอันดับ 9 และกำลังไล่ล่าพื้นที่เพลย์ออฟ ในนัดที่เจอกับคาร์ดิฟ ซึ่งอยู่ที่ 6 เท่ากับเป็นการตัดแต้มกันโดยตรง ซึ่งแมตช์ดังกล่าว ทำให้อัลเลนเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ภายหลังที่มาร์ติเนซ ส่งเขาลงสนามในฐานะตัวสำรองขณะที่ยังเสมอกันอยู่ และในนาทีที่ 88 อัลเลนก็ยิงประตูแรกของเขาในสีเสื้อสวอนซี จากนอกกรอบเขตโทษซึ่งเกมน่าจะจบลงด้วยชัยชนะแต่แล้ว รอส แม็คคอร์แม็คก็ยิงตีเสมอให้กับคาร์ดิฟเป็น 1-1 ในท้ายที่สุด

       สวอนซีพลาดการไปเล่นเพลย์ออฟในฤดูกาลนั้นโดยขาดเพียง 6 แต้ม อย่างไรก็ตาม อัลเลนได้รับการเชิดชูอย่างมากว่าเป็น จากนั้น ซัมเมอร์ปี 2009 เปาโล ซูซ่า เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมแทน โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ฤดูกาลนี้เป็นการพัฒนาอย่างจริงจังของอัลเลนแต่อาการบาดเจ็บทำให้เขาต้องไปนั่งข้างสนามเสียเป็นส่วนใหญ่

       การขาดหายไปของอัลเลน สวอนซีต้องดิ้นรนอย่างมากอีกครั้งในการไปเล่นเพลย์ออฟ แต่ก็แทบหัวใจสลายเมื่อต้องพลาดอีกปีโดยขาดไปแค่คะแนนเดียวเท่านั้น ปีต่อมาในวันที่ 16 กรกฎาคม 2010 สวอนซีแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ซึ่งก็คือ เบรนแดน รอดเจอร์ส

       รอดเจอร์ส หวังในตัวอัลเลนไว้สูงและตีค่าอัลเลนไว้มากด้วยความสามารถและบทบาทรวมถึงการปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นทำให้สวอนซีกลับมาได้และยืนระยะอยู่กับสวอนซีได้ระดับที่สูงฤดูกาล 2010–11 สวอนซีหันมาเล่นบอลระบบพาสแอนด์มูฟ ซึ่งมีอัลเลนเป็นหัวใจหลักในแดนกลางโดยฤดูกาลนั้น สวอนซีจบด้วยอันดับที่ 3 และผ่านเข้าไปเล่นเพลย์ออฟรอบรองชนะเลิศ กับ ฟอร์เรสต์โดยเอาชนะไป 3-1

       ในนัดชิงชนะเลิศ สกอตต์ ซินแคลร์ทำแฮตทริกช่วยให้ทีมชนะไป 4–2 เหนือสโมสรเรดดิ้ง ทีมเก่าของรอดเจอร์ และเส้นทางสู่พรีเมียร์ลีกของอัลเลนก็เริ่มต้น ด้วยระบบการเล่นอันสวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ต้นจนจบฤดูกาล อัลเลนก็แสดงผลงานเป็นที่น่าประทับใจมาโดยตลอด พร้อมกับยิงไป 4 ประตู และทีมจบที่อันดับ 11 ในพรีเมียร์ลีก

       เมื่อรอดเจอร์ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลในเดือนมิถุนายน สองเดือนหลังจากนั้น รอดเจอร์ก็เซ็นเขามาร่วมทีมด้วยกันอีกหนึ่งคำรบในที่สุด ด้วยค่าตัวสุงถึง 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 675 ล้านบาท) ช่วงต้าการค้าแข้งกับ "หงส์แดง" อัลเลน ออกตัวได้ค่อนข้างดี อีกทั้งได้รับเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมกับแมนฯ ซิตี้ และได้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม 2012 อีกด้วย

       ทว่าหลังจากนั้นชีวิตในรั้วแอนฟิลด์ ของ โจ อัลเลน ไม่ราบลื่นนัก เพราะเจออาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่เป็นระยะ ส่งผลให้ฟอร์มการเล่นตกลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งช่วงเวลาปัจจุบัน อัลเลน ก็ไม่อาจเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ จนกลายเป็นตัวสำรองไปแล้ว

ฤดูกาล 2013-2014

      ต้องบอกว่าเหมือนกับมาแจ้งเกิดอีกครั้งในตำแหน่งที่ดูแปลกตาไปกว่าแต่ก่อน ด้วยการเล่นเป็นมิดฟิลด์ตรงกลางและไม่ได้เน้นไปที่เกมรับ ในฤดูกาลนี้ อัลเลน กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งได้จริงๆหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ บทบาทในฤดูกาลนี้ของเขาเปลี่ยนไป ถูกสั่งให้เติมเกมรุกมากขึ้น และก็สามารถทำประตูได้ด้วย 1 ประตูในนัดรองสุดท้ายที่พบกับ คริสตัล พาเลซ เหมือนว่าเขาจะเจอตำแหน่งที่ใช่ของเขาแล้ว การวิ่งขึ้นวิ่งลงไม่มีหมดของเขาช่วยทีมได้มาก การผ่านบอลที่แม่นยำก็ยังคงเป็นจุดเด่นของเขาอยู่เสมอ ทำให้หลายครั้งในฤดูกาลนี้เขามักจะถูกส่งชื่อสตาร์ทเป็นผู้เล่นตัวจริง ฤดูกาลนี้อัลเลน ได้ลงเป็นตัวจริงทั้งหมด 26 นัด และยิงไปได้ 1 ประตู 


armada28 2015-12-02 18:06:10