11. แกรม เจมส์ ซูเนสส์

แกรม ซูเนสส์
ชื่อ : แกรม ซูเนสส์
สัญชาติ : สกอตแลนด์
วันเกิด : 6 พฤษภาคม 1953
ตำแหน่ง : กองกลาง
ลงเล่น : 359 นัด
ยิงประตู : 55 ประตู
เท้าที่ถนัด : เท้าขวา
ย้ายร่วมทีม : 10 มกราคม 1978
นัดแรก : 14 มกราคม 1978

ประวัติส่วนตัว "แกรม ซูเนสส์"

ประวัติส่วนตัว

          แกรม เจมส์ ซูเนสส์ (เกิด 6 พฤษภาคม 1953) เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพและผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวสกอตแลนด์ เขาดำรงตำแหน่งกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ในช่วงต้นทศวรรษ '80 และยังเป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีมของ กลาสโกว์ แรนเจอร์ส ในช่วงปลายทศวรรษ '80 แถมยังเป็นกัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ อีกด้วย

          นอกจากนี้ ซูเนสส์ ยังเคยเล่นให้กับสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, มิดเดิ้ลสโบรช์ และ ซามโดเรีย ในช่วงปลายอาชีพการค้าแข้ง

          หลังจากที่เขาแขวนสตั๊ดเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้ผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมให้กับสโมสร กลาสโกว์ แรนเจอร์ส, ลิเวอร์พูล, เซาท์แฮมป์ตัน, เบนฟิก้า, กาลาตาซาราย, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

          ปัจจุบัน ซูเนสส์ ยังทำหน้าที่เป็นผู้สันทัดกรณีให้กับ อาร์ทีอี, อีเอสพีเอ็น, สกาย สปอร์ตส์ และ อัล จาซีร่า สปอร์ตส์

ประวัติการค้าแข้ง

- ช่วงต้นการค้าแข้ง (1970-1978)

          การค้าแข้งของ ซูเนสส์ เริ่มต้นด้วยการเป็นเด็กฝึกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ภายใต้การทำทีมของ บิล นิโคลสัน ซึ่งเขาได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในวัย 15 ปี เมื่อปี 1968 แต่เขาต้องผิดหวัง เมื่อไม่ค่อยได้รับโอกาสติดทีมชุดใหญ่ ซูเนสส์ ในวัยหนุุ่มเคยได้รับการชื่นชมจาก นิโคลสัน ว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของสโมสร ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ได้ติดทีม สเปอร์ส ไปลุยศึก ยูฟ่า คัพ ในฐานะตัวสำรอง

          ในช่วงฤดูร้อนปี 1972 ซูเนสส์ ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับสโมสร มอนเทรอัล โอลิมปิก ใน ซอคเกอร์ ลีก อเมริกาเหนือ เขาได้ลงสนามถึง 10 นัดจาก 14 เกมที่ทีมลงแข่งขัน และได้มีชื่ออยู่ในทีมออลสตาร์ฤดูกาลนั้น

          หลังจากที่หมดสัญญายืมตัวกับ มอนเทรอัล โอลิมปิก เขาก็ได้กลับมาสู่ อังกฤษ อีกครั้ง โดยเขาถูกปล่อยตัวไปให้กับ มิดเดิ้ลสโบรช์ ด้วยค่าตัว 30,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ในปี 1972 และเขาได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1973 ในเกมที่พ่ายให้กับ ฟูแล่ม 1-2 ที่ คราเว่น ค็อตเทจ ซึ่งประตูแรกของเขาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 1973 ในเกมลีกที่เอาชนะ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ 3-0 ณ สนาม ไอย์รีซัม พาร์ค

          แต่ผลงานที่เป็นที่สุดของเขากับ "เดอะ โบโร่" คือเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล ด้วยการระเบิดฟอร์มทำแฮตทริกในเกมที่เอาชนะ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 8-0 ช่วยให้ทีมได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในฐานะแชมป์ดิวิชั่น 2

- ลิเวอร์พูล (1978-1984)

          ซูเนสส์ มีช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของเขากับสโมสร ลิเวอร์พูล ตลอด 7 ฤดูกาล ด้วยการคว้าแชมป์ลีก 5 ครั้ง แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 3 ครั้ง และแชมป์ลีก คัพ 4 ครั้ง

          ในปี 1978 เขาถูกดึงตัวมาแทนที่ของในเตะตัวเก๋าอย่าง เอียน คอลลาแกน โดย บ็อบ เพสลี่ย์ ผู้จัดการทีมของ ลิเวอร์พูล ในตอนนั้น ได้เซ็นสัญญาคว้าผู้เล่นชาวสกอตแลนด์ 3 ตัวมาเสริมทัพ ได้แก่ อลัน ฮันเซ่น เซ็นเตอร์แบ็คจาก พาร์ทิค ธิสเทิ่ล ด้วยค่าตัว 110,000 ปอนด์ (ประมาณ 6 ล้านบาท) เคนนี่ ดัลกลิช ศูนย์หน้าจาก กลาสโกว์ เซลติก ด้วยสถิติค่าตัว 440,000 ปอนด์ (ประมาณ 24 ล้านบาท) และสุดท้ายก็คือ ซูเนสส์ ที่ย้ายมาจาก มิดเดิ้ลสโบรช์ ด้วยค่าตัว 350,000 ปอนด์ (ประมาณ 19 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 10 มกราคม 1978

          ซูเนสส์ ลงสนามเป็นนัดแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมลีกที่เอาชนะ เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-0 ณ สนาม เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 1978 ส่วนประตูแรกของเกิดขึ้นในเกมลีกที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ในถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1978 ซึ่งเป็นจังหวะวอลเล่ย์ในกรอบเขตโทษ และในท้ายที่สุดจากจังหวะนั้นเอง ได้รับเลือกเป็นประตูประจำฤดูกาลโดยการโหวตของแฟนบอล

          เขามีส่วนสำคัญในการรักษาแชมป์ให้กับ ลิเวอร์พูล ในศึก ยูโรเปี้ยน คัพ รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งพบกับ เอฟซี บรูกส์ ที่สนาม เวมบลี่ย์ ด้วยการจ่ายบอลให้กับ เคนนี่ ดัลกลิช ยิงประตู และเป็นสกอร์เดียวที่เกิดขึ้นในเกมนั้น ตามมาด้วยแชมป์ลีกครั้งแรกของเขา ในฤดูกาล 1978-79 และ 1979-80 ส่วนแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ครั้งที่ 2 ก็มาถึง ในปี 1981 ด้วยการเอาชนะ เรอัล มาดริด โดยในทัวร์นาเม้นต์นั้น เขาได้ซัดแฮตทริกในเกมที่พบกับ ซีเอสเคเอ โซเฟีย ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

          จากความสำเร็จของเขาและทีม ทำให้ เพสลี่ย์ ได้มอบรางวัลอันยิ่งใหญ่ให้แก่เขา นั่นก็คือตำแหน่งกัปตันทีมในฤดูกาล 1981-82 ภายใต้การนำทัพของกัปตัน ซูเนสส์ ทำให้ ลิเวอร์พูล คว้าได้อีก 2 ถ้วย ได้แก่แชมป์ฟุตบอลลีก และแชมป์ลีก คัพ ในฤดูกาล 1982-83

          ในปี 1983-84 ซูเนสส์ คว้า 3 แชมป์ ซึ่งเขาเป็นผู้ทำประตูชัยในเกมลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศนัดรีเพลย์ พบกับ เอฟเวอร์ตัน ที่สนาม มายน์ โร้ด ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกในรอบชิงของทั้งสองทีมจากย่านเมอร์ซี่ย์ ไซด์ จากนั้น "หงส์แดง" สามารถรักษาแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน และเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึก ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1984 ที่ ลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะยอดทีมจากแดนผีดิบอย่าง ดินาโม บูคาเรสต์ 3-1 ในรอบรองชนะเลิศ จนทะลุเข้าไปสู่รอบชิงได้สำเร็จ และเอาชนะจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศ ที่พบกับ "หมาป่า" โรม่า ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ยิงลูกโทษนั่นด้วย

          ซูเนสส์ สิ้นสุดการค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ในปี 1984 จากการลงสนามทั้งสิ้น 359 เกม ยิงไป 55 ประตู

- ซามโดเรีย (1984-1986)

          เขาอำลาจากสโมสร ลิเวอร์พูล ในปี 1984 และตบเท้าเข้าร่วมทัพ ซามโดเรีย ด้วยค่าตัว 650,000 (ประมาณ 35.5 ล้านบาท) ผลงานของเขากับต้นสังกัดใหม่ก็คือการพาทีมได้แชมป์ โคปา อิตาเลีย ด้วยการเอาชนะ เอซี มิลาน 3-1 ในรอบชิงชนะเลิศ และทำให้พวกเขาคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

- กลาสโกว์ แรนเจอร์ส (1986-1991)

          ซูเนสส์ ย้ายออกจากสโมสร ซามโดเรีย ในปี 1986 และตัดสินใจรับหน้าที่ผู้เล่น-ผู้จัดการทีมให้กับ กลาสโกว์ แรนเจอร์ส เขาลงสนามไป 50 เกมในลีก ก่อนที่เขาจะประกาศแขวนสตั๊ดในปี 1991 ด้วยวัย 38 ปี

เกียรติประวัติและผลงานที่ผ่านมา

นักฟุตบอล (ระดับสโมสร)

- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
          - แชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 1 สมัย : (1968-69)

- มิดเดิ้ลสโบรช์
          - แชมป์ ดิวิชั่น สอง 1 สมัย : (1973-74)

- ลิเวอร์พูล
          - แชมป์ ดิวิชั่น หนึ่ง 5 สมัย : (1978-79, 1979-80, 1981-82, 1982-83, 1983-84)
          - แชมป์ ลีก คัพ 4 สมัย : (1979-80, 1981-82, 1982-83, 1983-84)
          - แชมป์ เอฟเอ ชาริตี้ ชิลด์ 3 สมัย : (1979, 1980, 1982)
          - แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย : (1977-78, 1980-81, 1983-84)

- ซามโดเรีย
          - แชมป์ โคปา อิตาเลีย 1 สมัย : (1984-85)

ผู้เล่น-ผู้จัดการทีม (ระดับสโมสร)

- กลาสโกว์ แรนเจอร์ส
          - แชมป์ สก๊อตติช พรีเมียร์ ดิวิชั่น 3 สมัย : (1986-87, 1988-89, 1989-90)
          - แชมป์ สก๊อตติช ลีก คัพ 4 สมัย : (1986-87, 1987-88, 1988-89, 1990-91)

 


2014-02-03