โจ เฟแกน

โจเซฟ เฟแกน
ชื่อ : โจเซฟ เฟแกน
สัญชาติ : อังกฤษ
วันเกิด : 12 มีนาคม 1921
ตำแหน่ง : อดีตผู้จัดการทีม
เซ็นสัญญา : -
อยู่กับทีมมาตั้งแต่ : -

ประวัติส่วนตัว "โจเซฟ เฟแกน"


     วันที่ 1 ก.ค. 1983 หนึ่งเดือนหลังจากเพสลี่ย์ก้าวลงจากตำแหน่ง 'สโมกิน' โจ เฟแกน เข้ามาสานงานต่อ พร้อมกับแบกความกดดันไว้เต็มสองบ่า เนื่องจาก บ็อบ ยอดเทรนเนอร์ในตำนาน ได้สร้างราก
ฐานไว้อย่างยอดเยี่ยม แถมทิ้งทวนในฤดูกาลสุดท้าย ด้วยแชมป์ดิวิชั่น 1 ซึ่งเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และแชมป์ลีก คัพ ซึ่งต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 3

     มันเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะต้องสานงานต่อจากยุคของ เพสลี่ย์ ในฐานะนายใหญ่อันมีชื่อเสียงจากห้องขัดรองเท้าอันโด่งดังของทีม มันเป็นวิวัฒนการของลิเวอร์พูลที่รักษาธรรมเนียมสืบต่อมา ตั้งแต่ยุคของแชงก์ลี่ย์ มาจนถึงเพสลี่ย์ก่อนส่งไม้ต่อให้ผู้นำคนต่อไปอย่าง เฟแกน


     หลังจากเพสลี่ย์ทำผลงานน่าประทับใจ คว้าถ้วยรางวัลให้กับทีมมาอย่างต่อเนื่องทำให้มันไม่ใช่งานง่าย แต่ก็คงความท้าทายอย่างมากให้กับเฟแกน ภายใต้การคุมทีมของเฟแกน ลิเวอร์พูลเล่นได้อย่าง เยือกเย็น มีประสิทธิภาพ ทุกอย่างต่างสมดุล และกลมเกลียว

     ภายในปีแรก เฟแกน ลบคำสบประมาท หลังจากพาต้นสังกัด คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 15 และแชมป์ลีก คัพ ครั้งที่ 4 ติดต่อกัน รวมถึงแชมป์ยูโรเปียน คัพ สมัยที่ 4 ในกรุงโรม ด้วยการเอา ชนะโรม่า ด้วยการดวลจุดโทษในปี 1983-84 อีกด้วย


     ในฤดูกาลถัดมา เฟแกน เจอปัญหารอบด้าน เริ่มตั้งแต่พ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด อริตลอดกาลในศึกแชริตี้ ชิลด์ ซ้ำร้ายยังมีบรรดาแกนหลักสลับหน้ากันเจ็บตลอดทั้งซีซั่น อีกทั้ง โจ ยังพลาดลายเซ็นต์ ดาวเตะอย่าง ชาร์ลี นิโคลส์ และไมเคิ่ล เลาดรู๊ป ในช่วงซัมเมอร์อีกต่างหาก

     หลังสิ้นสุดฤดูกลาล 1983-84 แกรม ซูเนสส์ ซึ่งเป็นกัปตันทีม "หงส์แดง" ในเวลานั้น ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ ซามพ์โดเรีย ทำให้ เฟแกน ต้องไปซื้อ แยน โมลบี้ มิดฟิลด์จากเดนมาร์ก เข้ามาแทนที่ และโมลบี้ ก็สร้างผลงานได้อย่างไร้ที่ติ ทุกอย่างกำลังไปได้สวยสำหรับ เฟแกน โดยในปี 1985 เจ้าตัวพา "หงส์แดง" ผงาดเข้าชิงยูโรเปี้ยน คัพ อีกสมัย พร้อมกับประกาศลาออกจากตำแหน่ง กุนซือ "หงส์แดง" เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกม โดยเฟแกน มั่นใจว่าทีมจะผงาดคว้าแชมป์ เพื่อทิ้งทวนตำแหน่งของตน

     อย่างไรก็ตาม เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในวันที่ 29 พฤษภาคม 1985 เมื่อแฟนบอลเหยียบกันตาย จนเป็นที่มาของโศกนาฎกรรมที่เฮย์เซล ส่วนผลจบลงที่ ลิเวอร์พูล พ่าย ยูเวนตุส 0-1 เนื่องจากนักเตะ "เร้ด แมชชีนส์" แทบไม่มีแรงจูงใจในการเล่น


     มีข้อสงสัยว่าถ้าประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงไปได้เขาจะคว้าถ้วยใหญ่มาครองให้กับลิเวอร์พูลเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ ในฤดูกาลสุดท้ายของเขา หากไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว หลายปีต่อมาเขามักจะถูกขอ คำแนะนำสำหรับเมลวู้ด และเขาได้แนะนำ รอย อีแวนส์ สมาชิกจากบูตรูมที่มักจะคอยฟังคำสอนที่พร่ำบอกของเฟแกนเสมอ น่าเศร้ากับการจากไปของเขาในเดือนกรกฎาคมปี 2001 ด้วยวัย 80 ปีซึ่งโจ จะถูกจด จำในฐานะของผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล และเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งบูทรูมตัวจริง


2014-01-27