8. จิมมี่ เคส

จิมมี่ โรเบิร์ต เคส
ชื่อ : จิมมี่ โรเบิร์ต เคส
สัญชาติ : อังกฤษ
วันเกิด : 18 พฤษภาคม 1954
ตำแหน่ง : กองกลาง
ลงเล่น : 269 นัด
ยิงประตู : 46 ประตู
เท้าที่ถนัด : เท้าขวา
ย้ายร่วมทีม : 01 พฤษภาคม 1973
นัดแรก : 26 เมษายน 1975

ประวัติส่วนตัว "จิมมี่ โรเบิร์ต เคส"

ประวัติส่วนตัว

          จิมมี่ โรเบิร์ต เคส เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 1954 ในเมือง ลิเวอร์พูล ซึ่งเขาค้าแข้งอยู่กับ "หงส์แดง" ในยุคช่วงทศวรรษปี 70-80 กับการเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวตัดเกมที่ขึ้นชื่อเรื่องการยิงประตู นอกจากนั้นเขายังเป็นนักเตะตัวหลักให้กับ "นักบุญแดนใต้" เซาท์แฮมป์ตัน ในช่วงปี 1985-1991 จากการลงสนามมากกว่า 200 เกมอีกด้วย

ประวัติการค้าแข้ง

- ลิเวอร์พูล (1973-1981)

          เคส ก้าวเข้าสู่รั้ว แอนฟิลด์ จากการเล่นในทีมนอกลีกให้กับสโมสร ลิเวอร์พูลใต้ ในเดือนพฤษภาคม 1973 และได้รับโอกาสลงสนามเป็นเกมแรกในวันที่ 26 เมษายน 1975 เป็นเกมลีกในสนามแอนฟิลด์ พบกับ ควีนส์ ปาร์ค แรนเจอร์ส ซึ่งพวกเขาสามารถเอาชนะไปได้ 3-1 จากประตูของ จอห์น โทแช็ก (2) และ เควิน คีแกน โดยในปี 1976 เขาถูกเลือกให้เป็นกองกลางตัวจริง และทำประตูได้ในเกมลีกวันที่ 23 สิงหาคม 1975 ด้วยการเฉือนเอาชนะ สเปอร์ส 3-2 และยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกและ ยูฟ่า คัพ ได้อีกด้วย

          เคส รักษาตำแหน่งของเขาได้อีกหนึ่งปี ด้วยการพา ลิเวอร์พูล ไล่ล่าสามแชมป์แชมป์ลีกสูงสุด, เอฟเอ คัพ และ ยูโรเปี้ยน คัพ ซึ่งพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ลีกสองฤดูกาลซ้อน แต่ต้องอกหักในรายการ เอฟเอ คัพ เมื่อพวกเขาพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 อย่างไรก็ตาม อีกไม่กี่วันให้หลัง พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ สมัยแรกสำเร็จ ด้วยการเอาชนะ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 3-1 ที่กรุงโรม

          ในปี 1981 เป็นที่น่าเสียดายที่เขาไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ บ็อบ เพสลี่ย์ เช่นเดียวกับเพื่อนของเขา เรย์ เคนเนดี้ มิดฟิลด์ร่วมทีม หลังจากที่ทั้งคู่ถูกตั้งข้อหาทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายในปี 1980 จึงทำให้ แซมมี่ ลี ได้รับโอกาสลงสนามแทน ซึ่งสุดท้ายแล้ว เคส ต้องถูกปล่อยตัวให้กับสโมสร ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในช่วงซัมเมอร์ปี 1981

          จิมมี่ ได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างมากในหมู่แฟน ๆ ลิเวอร์พูล โดยเขาได้รับการโหวตจากแฟนบอลกว่า 110,000 คน ให้เป็นผู้เล่นสุดช็อคตลอดกาล 100 คน ซึ่งเขาอยู่ในอันดับที่ 45 ในปี 2006

- ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (1981-1985)

          เคส ตบเท้าเข้าร่วมสโมสร ไบรจ์ตัน ในเดือนสิงหาคมปี 1981 ด้วยค่าตัว 450,000 ปอนด์ (ประมาณ 25 ล้านบาท) เขาพาทีมเขาชิง เอฟเอ คัพ อีกครั้งในปี 1983 และได้เชิญหน้ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนเช่นเคย ซึ่งผลจบลงด้วยสกอร์เสมอกันที่ 2-2 ต้องกลับไปแข่งใหม่ในนัดรีเพลย์ และก็เป็น "นกนางนวล" ที่ถล่มไป 4-0 ความแชมป์ไปได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาต้องตกชั้นด้วยการเป็นบ๊วยของลีก และไม่สามารถกลับขึ้นมาเล่นได้อีกเลย

- เซาท์แฮมป์ตัน (1985-1991)

          ในเดือนมีนาคม 1985 เคส ได้ย้ายไปเล่นให้กับสโมสร เซาท์แฮมป์ตัน ด้วยค่าตัวเพียงน้อยนิดแค่ 30,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.66 ล้านบาท) ซึ่งฤดูกาลแรกของเขากับ "เดอะ เซ้นต์ส" สามารถทะลุเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ได้ แต่กลับต้องแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล 0-2 ที่สนามไวท์ ฮาร์ต เลน เมื่อวันที่ 5 เมษายน 1986

          เขาได้ถูกเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ เซาท์แฮมป์ตัน ฤดูกาล 1989-90 และในเดือนธันวาคม 1990 เขาได้เป็นตัวแทนในการแข่งขันฟุตบอลลีกพบกับไอริชลีก ซึ่งในฤดูกาลนี้ เขาพาทีมขบที่อันดับ 7 ในดิวิชั่นหนึ่ง ซึ่งเกมที่น่าจดจำที่สุดของ เคส เกิดขึ้นในเกมที่พวกเขาสามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ 4-1 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 1989

          เคส เคยเล่นอยู่เคียงข้างกับดาวรุ่งอย่าง เลอ ทิสซิเออ, อลัน เชียเรอร์, ร็อด วัลเลซ และเจสัน ด็อดด์ แต่สุดท้ายเมื่อ เอียน แบรนฟุต เข้ามาคุมทีมแทน นิโคลล์ ในเดือนมิถุนายน 1991 จึงทำให้เข้าถูกขายให้กับสโมสร บอร์นมัธ ในเวลาต่อมา

- บอร์นมัธ, ฮาลิแฟ็กซ์ ทาวน์, แร็กซ์แฮม และ ไบรจ์ตัน (อีกครั้ง) (1991-1996)

          เขาย้ายไปเล่นให้กับ บอร์นมัธ ร่วมกับ แฮร์รี่ เร้ดแน๊ปป์ และได้ลงเล่นไป 40 เกมในลีก ฤดูกาล 1991-92 ซึ่งเป็นการลงเล่นในดิวิชั่นสามเป็นครั้งแรกในชีวิตการค้าแข้งของเขา

          หลังจากจบฤดูกาล เข้าย้ายไปยังสโมสร ฮาลิแฟ็กซ์ ทาวน์ แต่เขาได้เล่นเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ก่อนจะเก็บข้าวของไปยังสโมสร แร็กซ์แฮม ต่อไป ซึ่งเขาสามารถช่วยทีมให้เลื่อนชั้นมาจากดิวิชั่นสามได้ในฤดูกาล 1992-93

          เขากลับไปเล่นให้กับทีมนอกลีกอีกครั้ง จนกระทั่งกลับไปสู่สโมสร ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในเดือนธันวาคม 1993 ซึ่งตอนแรกเขาได้รับหน้าที่เป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีมต่อจาก เลียม เบรดี้ ในเดือนพฤศจิกายน 1995 เขาลงเล่นจนอายุเข้าสู่ 41 ปี เขากลายเป็นนักฟุตบอลที่อายุเยอะที่สุดในพรีเมียร์ลีกและในสโมสรทั้งหมด ก่อนที่ ปีเตอร์ ชิลตัน จะมาทำลายสถิติด้วยวัย 46 ปีในเวลาต่อมา สุดท้ายเขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดในวันที่ 10 พฤศจิกายน 1995 และดำรงตำแหน่งเป็นกุนซือชั่วคราวให้กับ "นกนางนวล" ในปี 1996

เกียรติประวัติและผลงานที่ผ่านมา

ระดับสโมสร

ลิเวอร์พูล
- แชมป์ ดิวิชั่น หนึ่ง : 1975-76,1976-77,1978-79,1979-80
- แชมป์ ยูฟ่า คัพ : 1976
- แชมป์ เอฟเอ ชาริตี้ ชิลด์ : 1976,1977,1979,1980
- แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ : 1976-77,1977-78,1980-81
- แชมป์ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ : 1977
- แชมป์ ลีก คัพ : 1981
- แชมป์ เอฟเอ คัพ : 1977
- เข้าชิง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ : 1978

ไบรจ์ตัน
- เข้าชิง เอฟเอ คัพ : 1983

ส่วนตัว
- บราโว อวอร์ด : 1978

 


2014-07-07